หมดปัญหาผลไม้เน่าง่าย StixFresh สติ๊กเกอร์ยืดอายุผลไม้ได้นานขึ้น 2 สัปดาห์

 

     รู้ไหมว่ากว่าผลไม้จะส่งถึงมือผู้บริโภคได้นั้น ต้องเกิดการสูญเสียระหว่างทางไม่ใช่น้อย ว่ากันว่าเฉพาะในกระบวนการผลิตไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต คาดว่ามีผลไม้และผักสด 52% เกิดจากการเน่าเสียจะถูกทิ้งก่อนที่จะส่งถึงมือผู้บริโภค (ตัวเลขจากประเทศสหรัฐอเมริกา)

     ปัญหาผลไม้เน่าเสียไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเท่านั้น แต่มันส่งผลกระทบเป็นมุมกว้าง ทำให้ปัญหานี้ไม่ได้ถูกเพิกเฉย หลายหน่วยงานจึงได้หาทางแก้ปัญหานี้ หนึ่งในนั้นคือบริษัท StixFresh ที่เล็งเห็นปัญหานี้และสังเกตเห็นว่าในปัจจุบันผลไม้ที่ขายตามท้องตลาดหรือห้างสรรพสินค้ามีการติดสติกเกอร์แบรนด์อยู่ที่ผลไม้ พวกเขาจึงมีแนวคิดที่จะใช้สติกเกอร์ดังกล่าวให้เป็นประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาการเน่าเสียของผลไม้ จึงได้พัฒนา StixFresh สติกเกอร์ยืดอายุความสดให้กับผลไม้ขึ้นมาทดแทนการใช้สติกเกอร์แบบเดิมที่มีอยู่ตามท้องตลาด

     โดยทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ Zhafri Zainudin ผู้บริหารของ StixFresh คุยกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของแผงลอยเล็กๆ เพื่อนของเขาบ่นเรื่องเสียเงินทุกวันเพราะผลไม้ไม่ดี

     “บางทีเราอาจจะหยุดธรรมชาติไม่ได้ แต่เราอาจจะทำให้มันช้าลงได้ไหม”

     จากเป้าหมายที่ต้องการให้ผลไม้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ Zhafri ได้ใช้เวลาเกือบ 3 ปีในการคิดค้นทำให้สติกเกอร์สมบูรณ์แบบ พวกเขาเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2560

     StixFresh เริ่มต้นด้วยผู้ก่อตั้งสองคน—Zhafri Zainudin เป็น CEO และ Buquari Othman เป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและการตลาด

    ในตอนแรก StixFresh มีเป้าหมายเพื่อยืดอายุมะม่วงเท่านั้น ต่อมาพบว่าสติ๊กเกอร์ใช้ได้ผลกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และความคล้ายคลึงอื่นๆ เช่น ผิวสัมผัส โรคภัยไข้เจ็บ และเชื้อรา

     ส่วนที่ท้าทายที่สุดที่ Zhafri และทีมต้องเผชิญคือการนำเทคโนโลยีของตนไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เขาอธิบายว่า "วิธีการที่แปลกใหม่ที่เราใช้ทำให้เกิดความวิตกกังวลจากทุกฝ่ายว่ามีประสิทธิภาพเพียงใดและที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค"

     Zhafri อธิบายเพิ่มว่า StixFresh แตกต่างออกไปจากสติกเกอร์ติดผลไม้ทั่วไป คือ เป็นสติกเกอร์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้งและสารประกอบจากธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ปลอดภัยต่ออาหาร ผ่านมาตรฐาน GRAS (Generally recognized as safe)

     เมื่อติดสติกเกอร์ไปบนผลไม้แล้ว สารในสติกเกอร์จะกระจายออกมาเพื่อสร้างชั้นผิวป้องกันทั่วพื้นผิวของผลไม้ เพื่อชะลอความสุก และรักษาความสด ความหวานและความชุ่มฉ่ำไว้ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และชะลอกระบวนการสุกของผลไม้ให้ช้าลงถึง 14 วัน

     StixFresh สามารถใช้ได้กับผลไม้หลากหลายชนิด เช่น แอปเปิล แพร์ อะโวคาโด แก้วมังกร กีวี่ มะม่วง ส้ม มะละกอ เป็นต้น และผู้พัฒนาตั้งใจที่จะพัฒนาให้ StixFresh สามารถนำไปใช้กับผักได้เพิ่มเติม

วิธีใช้งาน StixFresh

  • ติดสติกเกอร์ลงบนผลไม้ ขณะผลไม้ยังดิบหรือห่าม
  • แปะสติกเกอร์ติดไว้ที่ผลไม้จนกว่าจะรับประทานค่อยดึงออก
  • ไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้

 

     แนวคิดของ StixFresh ไม่เพียงมาช่วยแก้ปัญหาทำให้เกิดการสูญเสียผลไม้จากการเน่าเสียน้อยลง ซึ่งนำไปสู่การลดการสูญเสียรายได้ ตลอดจนผู้บริโภคที่ได้รับผลไม้ถึงมือในขณะที่ผลไม้ยังอยู่ในสภาพที่ดี และมีโอกาสที่จะเก็บไว้ทานได้นานมากขึ้น ในขณะเดียวกัน StixFresh ก็ยังได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดขยะอาหารได้อีกด้วย จนทำให้ผลงานนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ World Food Innovation Awards 2019 ประเภท Best Packaging Technology และ Best Sustainability initiative

 

Cr: https://vulcanpost.com/652246/stixfresh-stickers-prolong-fruits/

https://www.weforum.org/agenda/2021/03/sticker-helps-cut-food-waste/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ละเลียดวิธีคิด สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator ไทย ผู้ยืนหนึ่งเวทีโลก

ละเลียดวิธีคิดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator อันดับหนึ่งของโลก CEO แห่ง Illusion CGI Studio ที่พาสตูดิโอขึ้นแท่นเป็น No.1 ของโลกติดต่อกันถึง 11 ปี เขามีวิธีคิดและกลยุทธ์อย่างไร ถึงพาธุรกิจไปได้ไกลขนาดนี้

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว

BaanRung จากโรงเก็บของสู่คาเฟ่ตัวท็อป สูตรลับธุรกิจที่เริ่มได้แม้ไม่มีทุนมหาศาล

หลายธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นจากทุนมหาศาลหรือทำเลทอง แต่เริ่มจาก พื้นที่เล็กๆ หน้าบ้าน ดังเช่น “บ้านรุ่ง” ที่เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆหน้าบ้านที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็นคาเฟ่ที่มีกลิ่นอายของความโฮมมี่