รู้จักอาชีพนักนอน สบายจริง? จำเป็นแค่ไหนต่อธุรกิจ?

 

 

     อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากที่จะทำและเป็นที่พูดถึงมากในโลกโซเชียล ตั้งแต่ตอนที่บริษัท Mattress City ประกาศรับสมัครพนักงานแล้ว แต่ในจิตนาการของทุกคน เมื่อพูดถึง อาชีพนักนอน” ก็คงคิดว่ามันดูสบายจัง อยากทำบ้าง คงแค่ไปนอนเฉยๆ หรือเปล่า วันนี้เราก็เลยอยากจะพาทุกคนไปรู้ว่าการทำอาชีพนักนอนต้องทำอะไรบ้าง และทำไมต้องมีอาชีพนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับอะไรกัน

 อาชีพนักนอนต้องทำอะไรบ้าง

1.  นอนเพื่อใช้ร่างกายทดสอบผลิตภัณฑ์ที่นอนแต่ละรุ่นของแบรนด์

2. นักนอนจะต้องนอนหงาย ตะแคง คว่ำ ท่าละประมาณ 10 นาที ว่านอนแล้วรู้สึกเมื่อย หรือรู้สึกกดทับตรงไหน จุดไหนอย่างไรบ้าง

3. ศึกษาและวิเคราะห์ชั้นวัสดุของที่นอนอย่างละเอียด เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน

4. เขียนบรรยายสรุปผลการวิเคราะห์ในแต่ละวัน

5. ทำคอนเทนต์รีวิวผลิตภัณฑ์ที่นอนให้น่าสนใจ เพื่อให้คนดูเข้าใจว่าที่ลงทุนซื้อที่นอนดีๆ มีประโยชน์อย่างไร

ข้อเสียของอาชีพนักนอน

  • ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เพราะต้องทำงานในพื้นที่ตามที่บริษัทกำหนด กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 
  • ต้องนอนคนเดียว ตามเวลาที่บริษัทกำหนดและห้ามอดนอนเด็ดขาด ดูเหมือนเรื่องเล็กแต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายๆ คน เช่น คนที่นอนห้องโรงแรมคนเดียวไม่ได้เพราะกลัวผี
  • ต้องเป็น influencer มีตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ต อาจไม่เหมาะกับบางคนที่ไม่ชอบทำงานลักษณะแบบนี้

 

ผู้ที่ไม่เหมาะกับอาชีพนี้

1. คนที่ติดสัตว์เลี้ยงหรือต้องนอนกอดสัตว์เลี้ยง

2. คนที่ชอบนอนเช้าตื่นบ่ายหรือนอนไม่เป็นเวลา

3. คนที่นอนหลับยาก

     ในแง่การทำธุรกิจ วิธีนี้คือการใช้ผู้บริโภคสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างแท้จริงๆ ที่จะส่งผลในแง่ความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเป็นการเก็บข้อมูลที่ได้จากเหล่านักนอนทั้งหมดรวบรวม และวิเคราะห์ออกมาว่าสินค้ามีข้อบกพร่องตรงไหน เพื่อจะได้นำจุดบกพร่องเหล่านั้นมาปรับปรุงให้ดีขึ้น และเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เพราะว่าจะทำให้สินค้าหรือบริการมีความน่าเชื่อถือ

     และนี่ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าทำไมต้องมีอาชีพนี้ขึ้นมา

    “คุณอาจจะรู้สึกอิจฉางานนักนอน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่งานที่ง่ายและสบายขนาดนั้น”

ที่มา : Sleepermattresscity

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

The Rubik Theory ทฤษฎีบิดลูกบาศก์ธุรกิจให้ลงตัว ฉบับ After Yum  

“The Rubik Theory” ทฤษฎีบิดลูกบาศก์ธุรกิจให้ลงตัว คือกลยุทธ์ที่ After Yum นำมาใช้ การปรับกลยุทธ์ธุรกิจ การคิดแบบหลายมิติ รวมถึงการฝึกความอดทนและทดลองทำสิ่งใหม่ๆ จนวันนี้ไม่มีใคร ไม่รู้จักแบรนด์ที่คงความแซ่บได้แบบยืนหนึ่งแบรนด์นี้

บุญช่วยมัทฉะ คาเฟ่ในร้านขายของชำ คอนเซปต์สุดแปลก ที่เปลี่ยนจุดด้อย ให้กลายเป็นเสน่ห์

ตามไปดู "บุญช่วยมัทฉะ" คาเฟ่มัทฉะลับๆ ที่กำลังถูกพูดถึงใน TikTok เพราะไอเดียสุดแปลกเสิร์ฟมัทฉะคุณภาพระดับพรีเมียมจากครัวหลังร้านของชำของแม่ชื่อว่า “บุญช่วยพานิช” จนกลายเป็นเสน่ห์ กิมมิก ที่ทำให้ใครๆ ก็จดจำได้

เพราะทุกการขนส่ง คือการเติบโต เมื่อมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ธุรกิจก็ไปได้ไกลกว่าเดิม

ในยุคที่โลกธุรกิจหมุนเร็วกว่าเดิม การดำเนินธุรกิจเพียงลำพังคนเดียวอาจเป็นไปได้ยาก แต่หากมีพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจเข้ามาช่วยต่อยอด ธุรกิจคงไปได้ไกลมากกว่าที่คิด