ซีอิ๊วตรารถยนต์ แบรนด์ซีอิ๊วหนึ่งเดียวของภูเก็ต สานต่อสูตรหมักโอ่งดินแบบโบราณ 100 ปี

TEXT : ชาญชัย หาสสุด

PHOTO : ภูเก็ตจันทร์แสง

Main Idea

  • “ซีอิ๊วตรารถยนต์” ของดีคู่ครัวคนภูเก็ต ที่ใครได้ชิมรสชาติเป็นต้องติดใจ เพราะเป็นสูตรดั้งเดิมทำกันมาร้อยกว่าปีแล้ว

 

  • ในวันนี้กิจการเติบโตมาจนถึงรุ่นที่ 2 และ 3 ช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น แม้จะบรรจุในขวดทันสมัย แต่ยังคงคุณภาพการผลิตที่พิถีพิถันแบบโบราณหมักใส่โอ่งดินมาจนถึงทุกวันนี้

 

     เมื่อปลายปี 2558 ภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารจาก UNESCO  (Creative City of Gastronomy) ซึ่งแสดงให้เราเห็นถึงความโดดเด่นของเอกลักษณ์ทางด้านอาหารของภูเก็ต นอกจากทะเล ชายหาดและแสงแดดที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก “ซีอิ๊วตรารถยนต์” คือ สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมการกินของชาวภูเก็ตยิ่งน่าสนใจ ไม่แพ้ความสวยงามทางธรรมชาติที่มีอยู่เลย

     ถ้าถามคนภูเก็ต มีน้อยมากที่ไม่รู้จัก ซีอิ๊วตรารถยนต์ ซีอิ๊วคู่ครัวของคนภูเก็ตมานาน

     “พ่อกับแม่มีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน เดินทางมาอยู่ภูเก็ต เมื่อประมาณแปดสิบกว่าปีก่อน เปิดร้านขายของชำเล็กๆ  แม่ได้ความรู้การทำซีอิ๊วมาจากเมืองจีน ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมทำมาเป็นร้อยๆ ปี ด้วยความบังเอิญที่ทำกินเอง แล้วแบ่งให้เพื่อนบ้านชิม จนหลายคนติดใจในรสชาติ เชียร์ให้ทำขาย ตั้งแต่นั้นบ้านเราก็ขายซีอิ๊วมาตั้งแต่จำความได้

     อาป๋า - เกียรติศักด์ จันทร์เวียงทอง ทายาทรุ่นที่ 2 เล่าให้ผมฟังถึงที่มาของซีอิ๊วยอดนิยมของคนภูเก็ตด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเป็นกันเอง

     โดยเล่าต่อว่าช่วงแรกๆ ที่ทำขายนั้น ไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะที่ร้านก็ขายของสินค้าอื่นๆ ไปด้วย จนกระทั่งถึงรุ่นของอาป๋าซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 เมื่อเรียนจบจึงมีความคิดอยากทำซีอิ๊วขายจริงจัง เพราะหลายคนติดใจในรสชาติ แล้วบอกต่อกันปากต่อปาก จึงสร้างแบรนด์ขึ้นมาโดยใช้เป็นรูปรถยนต์เป็นโลโก้ มาจากพาหนะที่พ่อกับแม่ใช้เดินทางมาประเทศไทย และยังหมายถึงการเดินทางของธุรกิจซีอิ๊วของครอบครัวได้ด้วย โดยเริ่มจากผลิตและขายส่งให้ร้านของชำเล็กๆ ในตัวจังหวัดก่อน แล้วค่อยขยายออกไปจังหวัดอื่นในภาคใต้ จากนั้นมาซีอิ๊วตรารถยนต์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในภาคใต้โดยเฉพาะกับคนภูเก็ต

     “ไม่ใช่ว่าจะขายดีเลยตั้งแต่แรกนะ ต้องใช้เวลาถึงเกือบ 4-5 ปี ถึงจะมีคนรู้จัก จากภูเก็ตจึงเริ่มขยายพื้นที่ไปยังพังงา กระบี่ และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ จนวันนี้หลายคนรู้จักซีอิ๊วของเรามากขึ้น ตอนนี้มีลูกๆ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 มาช่วยสานต่อ จากตอนแรกที่ใช้แค่กำลังการผลิตในครอบครัว เมื่อยอดขายเพิ่มมากขึ้น เราจึงสร้างโรงงานภูเก็ตจันทร์แสงขึ้นมา และย้ายแหล่งผลิตจากที่บ้านมาที่โรงงาน เมื่อประมาณสิบปีก่อนจนถึงปัจจุบัน”

     ถามว่าทำไมซีอิ๊วตรารถยนต์จึงครองใจคนภูเก็ตและผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน อามะ - รัตนา จันทร์เวียงทอง ผู้เป็นภรรยาไขข้อข้องใจให้ผมฟังว่า

     “รสชาติที่กลมกล่อม ได้มาจากกระบวนการผลิตแบบธรรมชาติ ซึ่งยึดสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดกันมามากกว่าร้อยปี”

     ประโยคสั้นๆ ที่เสริมต่อจากเรื่องราวของจุดกำเนิดซีอิ๊วท้องถิ่นแบรนด์เดียวที่เหลืออยู่ในตลาดภูเก็ต ทำให้ผมเข้าใจถึงเสน่ห์การผลิตที่มาจากน้ำมือของคนจริงๆ ที่ตั้งใจเกือบทุกขั้นตอน มีแค่บางอย่างเท่านั้นที่ต้องใช้เครื่องจักรทุ่นแรงและปรับเปลี่ยนให้ถูกหลักอนามัย

     เราพูดคุยกันเรื่อยๆ จนผมตั้งคำถามว่า ใช้เวลานานไหมกว่าที่ลูกๆ จะตัดสินใจมาช่วยงานเต็มตัว อาป๋ากับอามะตอบแบบไม่ลังเลว่า ทุกคนตั้งใจจริง อาจจะเกิดจากการปลูกฝังลูกทั้งสองมาตั้งแต่เด็กให้เข้าใจขั้นตอนการทำงาน ตลอดจนการลงมือทำและช่วยงานผลิต

     ภาพแรกที่ผมเห็นตอนออกไปเดินดูโรงงาน โอ่งดินร่วมร้อยใบวางเรียงรายกลางลานโล่ง ต่างจากภาพในหัวที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรโดยสิ้นเชิง อาป๋าเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการทำซีอิ๊วต่อว่า

     “ขั้นแรกต้องคัดเลือกพันธุ์ถั่วเหลืองก่อน ซึ่งส่วนมากมาจากสุโขทัยบ้าง เชียงใหม่บ้าง นำไปสู่ขั้นตอนการผลิตตามสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมา ขั้นตอนที่ซับซ้อนที่สุดน่าจะเป็นการหมักที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ในขั้นตอนนี้เราต้องมีคนดูแลตลอด คอยเปิด-ปิดโอ่งหมักให้รับแดดตามระยะเวลาที่เหมาะสม แล้วต้องดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่งั้นรสชาติจะเพี้ยน” อาป๋าบอก

     จากการใช้เวลาพูดคุยกับอาป๋าและอามะ ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นผู้ใหญ่ใจดีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา

     ถ้าเปรียบภูเก็ตเป็นเหรียญสักเหรียญ ด้านหงายคงหนีไม่พ้น ภาพของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่นักท่องเที่ยวหลายคนปักหมุดไว้เป็นจุดหมายปลายทางสักครั้งในชีวิต  ในขณะที่ด้านคว่ำของเหรียญ คือ เสน่ห์ของเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่มักถูกมองข้าม ซึ่งอย่างน้อยต้องมีเรื่องอาหารการกินรวมอยู่ด้วย จนวันนี้เมื่อภูเก็ตได้รับรางวัลด้านอาหารจากองค์กรระดับโลก เหรียญด้านที่คว่ำอยู่คงมีคนพลิกขึ้นมาดูมากขึ้น และหนึ่งในนั้นเขาต้องได้เห็นและรู้จัก “ซีอิ๊วตรารถยนต์”

ซีอิ๊วขาวตรารถยนต์

https://www.facebook.com/Junsaeng?mibextid=LQQJ4d

โทร. 081 892 3178

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม