ถอดรหัสสร้างธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด ‘เข้าใจตนเอง’จากสองแบรนด์ดัง  “ข้าวธรรมชาติ” และ “BWILD Isan”

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • “ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย” ข้าวปลอดสารพิษ คุณภาพคัดพิเศษ และ “BWILD Isan” กระเป๋ารูปทรงไก่ชนจากแดนอีสาน คือ 2 แบรนด์ตัวอย่าง 2 ที่มีการทำธุรกิจอยู่บนพื้นฐานการรู้จักและเข้าใจตนเอง จนทำให้ธุรกิจเกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

  • ไม่เพียงเฉพาะแค่ตัวธุรกิจ แต่ยังรวมถึงผู้ร่วมทำงาน สังคม และสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่เติบโตไปพร้อมๆ กันด้วย เกิดเป็นความยั่งยืนที่เกื้อกูลถึงกัน

 

  

     สุดยอดของชัยชนะ อาจไม่ได้จบลงแค่การเป็นที่ 1 เสมอไป แต่คือ ทำยังไงจึงจะรักษาแชมป์ หรือตำแหน่งผู้นำเอาไว้ให้ได้ การทำธุรกิจก็เช่นกัน จะประสบความสำเร็จได้อาจไม่ได้วัดกันแค่การลงมือทำ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก หรือยอดขายถล่มทลายในชั่วพริบตาเดียว แต่จะทำยังไงให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งอาจต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน

     วันนี้เลยจะชวนมาทำความรู้จักกับ 2 ผู้ประกอบการธุรกิจ ที่นอกจากวันนี้จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แต่ยังมีแนวคิดการทำธุรกิจที่น่าสนใจ ตั้งแต่การวางพื้นฐาน ไปจนถึงการคิดต่อยอดอนาคตในระยะยาว

     ชินศรี พูลระออ จากแบรนด์ “ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย” ผู้สร้างโมเดลการค้าข้าว โดยมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่ชาวนา มุ่งหวังให้พวกเขาได้เพาะปลูกข้าวคุณภาพดี เพื่อที่จะสามารถเป็นผู้กำหนดราคาข้าวในการซื้อขายเองได้ และ กาญจนา ชนาเทพาพร เจ้าของแบรนด์ “BWILD Isan” กระเป๋ารูปทรงไก่ชนสุดครีเอทจากแดนอีสาน ที่โด่งดังเป็นไวรัลอยู่บนโลกออนไลน์ในขณะนี้

Q : กว่าจะมาเป็นแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย และแบรนด์ BWILD Isan

     ชินศรี : แบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย เริ่มต้นทำธุรกิจเมื่อปีพ.ศ. 2558 โดยมีจุดกำเนิดมาจาก ธุรกิจโรงสีข้าว จังหวัดเชียงราย ด้วยที่ว่าทางแบรนด์มีความเกี่ยวข้องกันกับชาวนาโดยตรง และเชื่อว่า ชาวนาและโรงสีข้าว คือธุรกิจเดียวกัน จึงต้องการช่วยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม และต่อมาได้รับโอกาสเข้าร่วมโครงการ “พอแล้วดี” การเรียนรู้หลักความคิดตามเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้สามารถจัดการกระบวนการคิดได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น และถือว่าเป็นแนวคิดสำคัญในการเป็น แบรนด์ข้าวธรรมชาติ ในปัจจุบัน

     กาญจนา : จุดเริ่มต้นของ แบรนด์ BWILD Isan ย้อนกลับไปในช่วงโควิด-19 จะมีร้านห้องเสื้อตัดชุดแต่งงาน ชุดราตรี อยู่ในจังหวัดขอนแก่น ไม่ใช่แค่เราที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากโรคระบาดในครั้งนั้น  แต่ยังมีอีกหลากหลายชีวิต ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์, ช่างฝีมือ หรือช่างตัดเย็บ ต่างก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงเกิดการระดมสมอง เพื่อมองหาทางออกร่วมกัน โดยตกลงกันได้ว่า จะทำการลงทุน สร้างแบรนด์ใหม่ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่น บวกกับความครีเอท และเลือกขายผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก

Q : จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจการเกษตรของแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย และธุรกิจกระเป๋ารูปทรงไก่ชน ของ BWILD Isan

     ชินศรี : เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ที่ว่า “ต้องรู้จักตัวเองก่อน” เรามีจุดเด่น หรือทำอะไรได้บ้าง อยู่ภายใต้แนวคิดที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อสร้างจุดแข็งที่ดีให้แก่แบรนด์ โดยยืดหลักคุณธรรม นำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และด้วยที่ว่าเรามีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงสีข้าวอยู่แล้ว ทำให้สามารถเข้าใจถึงความต้องการของตลาดข้าวได้เป็นอย่างดี เพราะการที่จะกำหนดมาตรฐานและยกระดับคุณภาพของข้าวให้ดีได้นั้น จะต้องเริ่มจากผู้ผลิต นั่นก็คือชาวนา

     ขั้นตอนแรก เราช่วยดูแลตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ข้าวในการปลูก จะต้องมีความพิเศษเฉพาะตัว โดยทำการส่งเสริมกรรมวิธีการเพาะปลูก ที่จะต้องปราศจากสารเคมีที่เป็นพิษ ทั้งยาฆ่าหญ้า หรือยาฆ่าแมลง เพื่อสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ และรับซื้อข้าวในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด ทำให้ชาวนาสามารถ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพิ่มผลผลิต มีราคาเพิ่มให้ สร้างรายได้ ทำกำไร และส่งต่อข้าวที่ดีถึงมือลูกค้าได้อย่างแท้จริง

     “เพราะต่อให้เลือกใช้เทคโนโลยีดีขนาดไหน เราก็ไม่สามารถสีข้าวเมล็ดลีบให้กลายเป็นข้าวเต็มเมล็ดได้ ” เมล็ดข้าวคุณภาพดีจึงเริ่มต้นที่ในนา เมล็ดข้าวจะดีได้ก็ต่อเมื่อชาวนาดูแลเอาใจใส่ ดังนั้นข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย จึงเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวนาก่อน

     กาญจนา : “เราเริ่มต้นจากใช้แต่ใจล้วน ๆ ขาดองค์ความรู้ ขาดภูมิคุ้มกัน ในการทำธุรกิจ” เพราะช่วงแรกในการทำแบรนด์ เราใช้ชื่อว่า BWILD byheart น้องๆ ดีไซเนอร์ทุกคน มีพลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ Passion สูงมาก แต่ขาดความเข้าใจลูกค้า ขาดการวางแผนที่ถูกต้องรัดกุม ทำให้ใช้เงินลงทุนไปแบบไร้ทิศทาง

     “เราไม่สามารถเป็นอะไรสำหรับทุกคนได้ แต่เราเป็นสิ่งที่น่าจดจำสำหรับบางคนได้” จนได้เข้าร่วมโครงการ พอแล้วดี เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการทำแบรนด์ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่รูปแบบในการทำงานที่เป็นระบบ การจัดระเบียบกระบวนความคิดความเข้าใจในตัวสินค้า และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด จนสามารถออกสินค้าตัวแรกภายใต้ชื่อแบรนด์ที่เปลี่ยนมาเป็น BWILD Isan นั่นก็คือ “กระเป๋ารูปทรงไก่ชน” โดยมีแนวความคิดที่สร้างคุณค่ามาจากไก่ชน ในภาคอีสาน เพราะความแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร จนกลายมาเป็นสินค้า Signature ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก และได้ผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก 

Q : กลยุทธ์มัดเด็ด…คว้าใจลูกค้า ดันแบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก และได้รับความพึงพอใจจากผู้บริโภคสูงสุด

     ชินศรี : สิ่งที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย คือ ข้าวสายพันธุ์แท้ดั้งเดิม ที่มีความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์ ไร้การปลอมปน คัดเลือกเฉพาะที่มีคุณภาพสูงและเป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นดิน น้ำ สภาพอากาศเย็น จากระดับความสูงน้ำทะเล ของจ.เชียงราย เช่น ข้าวดอกมะลิ 105 ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 8974 พันธุ์พื้นถิ่น ข้าวไรซ์เบอรี่ ที่ให้สารสีม่วงเข้มในอากาศเย็น รวมไปถึงการสร้างสังคม และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเรามองว่าการเน้นความเป็นอยู่ที่ดีของคนก่อน จะสร้างกำลังใจและกำลังกาย เพื่อไปฟื้นฟูธรรมชาติให้ดีขึ้นตามมา และสามารถส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้แก่ลูกหลาน นำไปพัฒนาประเทศชาติเติบโตต่อไป

     ทุกฤดูแห่งการเพาะปลูก ผมลงไปพบปะพูดคุยโดยตรงกับชาวนา เพื่อไปสร้างกำลังใจ และทำให้เห็นจริง ๆ ว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่สำคัญ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และน่ายกย่องมากเพียงใด ซึ่งการปรับเปลี่ยนกรรมวิธีตามรูปแบบที่เราได้วางไว้ จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เป็นอาชีพที่ดีสามารถส่งต่อให้กับลูกหลานได้

     และเมื่อสภาพแวดล้อมดีขึ้น ผลผลิตจากข้าวที่ได้รับ ก็จะมีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน ชาวนาเองก็มีความภาคภูมิใจที่ได้ส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้แก่ผู้บริโภคด้วย เพราะข้าวแต่ละสายพันธุ์ที่เรานำมาให้เกษตรกรปลูก ล้วนเป็นข้าวที่มีความพิเศษ มีคุณภาพสูง และหาได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นต้นตระกูลของหอมมะลิไทย ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับว่าคุณภาพดีที่สุด ส่วนข้าวเหนียวเขี้ยวงู เป็นพันธุ์ต้นตระกูลแท้ จากจังหวัดเชียงราย หรือข้าวสามสี ที่มีธาตุอาหารสำหรับคนดูแลรักษาสุขภาพเป็นต้น

     “ตั้งแต่เราทำแบรนด์ข้าวธรรมชาติมา ยังไม่มีชาวนาคนไหน ไม่มีรอยยิ้มกลับไปจากการขายข้าวให้เราเลย”

     จึงทำให้เราสามารถกำหนดราคาขายข้าวได้อย่างเหมาะสม เป็นธรรม โดยข้าวจากแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จัดจำหน่ายขายปลีกอยู๋ที่กิโลกรัมละ 120-150 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับความพิเศษของคุณภาพข้าว) โดยในเรทราคานี้ จะสามารถแบ่งออกมาเป็น 30% คือค่าตอบแทนแก่ชาวนา, 25% เป็นค่าการจัดการอุปกรณ์แพ็กเกจต่าง ๆ ,15%ของแบรนด์ , 25% เป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาด และอีก 5 % ส่วนที่เหลือ จะถูกนำเก็บไว้ไปบริจาคช่วยเหลือและพัฒนาสังคมให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

     กาญจนา : ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร” จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ BWILD Isan โดดเด่นในอุตสาหกรรมแฟชั่น

     ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแบรนด์ที่เล็ก ๆ อาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ การเลือกกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ มากกว่าแค่ดีไซน์ที่โดนใจ

     แนวคิดในการออกแบบที่ผสมผสานความภาคภูมิใจในคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นอีสานเข้ากับตัวสินค้าของเราสร้างความแตกต่างจากคุณค่าที่เรามีอยู่ เพื่อมอบแรงบันดาลใจ แรงผลักดันกลับคืนสู่ชุมชนอย่างแท้จริง เราได้สร้างความภาคภูมิใจขึ้นได้ ความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกต่อยอดจากรากเหง้า สร้างงาน สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จากสิ่งที่พวกเรามี

Q : จุดเปลี่ยนของข้าวธรรมชาติ และ Bwild Isan ในการเข้าสู่ตลาด e-Commerce

     ชินศรี : ทุกวันนี้มองว่า การทำตลาดออนไลน์ หรือการทำอีคอมเมิร์ซ  คือ สิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจมีเปอร์เซนต์ที่เติบโตได้มากขึ้น เพราะสามารถกระจายสินค้า ส่งตรงได้ถึงมือลูกค้าได้โดยง่ายและรวดเร็ว จึงทำให้ลูกค้าสามารุถได้บริโภคข้าวคุณภาพดีต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากเดิม

     ซึ่งหากเรามีพาร์ทเนอร์ที่ดีมาทำงานร่วมกัน ก็จะช่วยให้ความตั้งใจที่กล่าวไปนี้เป็นผลสำเร็จ และขยายออกไปได้กว้างขึ้น และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเลือกเข้ามาขอคำปรึกษากับ Sellsuki บริษัทที่ให้บริการช่วยออกแบบกลยุทธ์ และวางแผนการตลาดออนไลน์ มืออาชีพ เพราะเราอยากสื่อสารออกไปให้มากขึ้นกว่าเดิม ให้ทุกคนได้รับรู้ว่า มันมีธุรกิจค้าข้าวที่ทำแบบนี้อยู่นะ ที่ทำงานร่วมกับเกษตรกรทำให้สามารถรู้ราคาก่อนปลูกได้ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ เป็นข้าวคุณภาพสูง บางสายพันธุ์ก็หารับประทานได้ยาก รวมถึงการช่วยวางระบบงานออนไลน์ ซึ่งเราอยากได้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้

     กาญจนา : สำหรับแบรนด์ BWILD Isan อาจแตกต่างไปสักหน่อย เพราะเราตั้งใจและเริ่มต้นจากตลาดอีคอมเมิร์ซเลย เพราะเกิดขึ้นมาในช่วงโรคระบาด ทำให้เราต้องขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็ทำเองเกือบทุกช่องทางอยู่แล้ว เฟซบุ๊ก, ไอจี, เว็บไซต์, ติ๊กต๊อก ฯลฯ แต่เราก็ทำแบบแบรนด์เล็กๆ จึงอยากได้มืออาชีพที่มีความชำนาญเข้ามาช่วยดูแลให้เพิ่ม เพราะเอาจริงๆ ถ้าต้องทำงานเอง ดีไซน์เอง และต้องมาขายเองอีก เราไม่สามารถมีหลายทักษะที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ จึงต้องการพาร์ทเนอร์มืออาชีพ ที่ไว้ใจได้อย่าง Sellsuki  เข้ามาช่วยดูแลเช่นกัน อีกอย่างที่เราต้องการ ก็คือ ความยั่งยืน ต่อไปหากเราไม่ได้เข้ามาดูแลเอง แต่ทุกอย่างมันสามารถรันต่อเนื่องไปได้เอง จากระบบที่สร้างขึ้นมา

Q : ความสำเร็จของแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ. เชียงราย และแบรนด์ Bwild Isan

     ชินศรี :“รอยยิ้มของเกษตรกร ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และการเติบโตของธุรกิจ รวมทั้งได้ฟื้นฟูบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ” นั่นคือความสำเร็จของแบรนด์ข้าวธรรมชาติ จ.เชียงราย

     เพราะการได้ช่วยส่งต่อโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่คนในสังคมได้ ผมก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของแบรนด์ข้าวธรรมชาติที่ได้ทำมาแล้ว การได้บริโภคข้าวดีๆ สิ่งแวดล้อมที่ได้รับการฟื้นฟูที่ดีขึ้น แค่ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ๆ ผมมองว่าสิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืนขึ้นได้ ถ้าพูดถึงความยั่งยืน มันไม่ใช่แค่ตัวเราที่ดี แต่ทุกชีวิตที่อยู่แวดล้อมตัวเราต้องดีขึ้นไปด้วย

กาญจนา : เราไม่ได้อยากเป็นแม่ค้าขายกระเป๋าแฟชั่น เราผ่านวิธีคิด และมีเป้าหมายชัดเจน จะพิสูจน์ให้เห็นว่า งานครีเอทีฟ นักออกแบบ และช่างฝีมือของอีสานคือ The Best

     เพราะถ้าให้พูดถึงความสำเร็จตลอดระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี BWILD Isan แบรนด์ Survival ในช่วงที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ การเอาตัวรอดในช่วงสถานการณ์วิกฤต การสร้างเอกลักษณ์ของสินค้า และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นก็เป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง หรือแม้แต่การเป็นตัวช่วยส่วนเล็ก ๆ ที่มอบแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน ได้กลับไปคิด อยากกลับมาสร้างงาน สร้างรายได้จากบ้านเกิด เพื่อให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้นจากเดิม ก็เป็นความสำเร็จอีกเช่นกัน

     และวันหนึ่ง “เราจะพาความเป็นอีสานไปสู่โกลบอลให้ทั่วโลกรู้จัก และอีสานจะเฉิดฉายในสายตาโลก” กาญจนา ชนาเทพาพร เจ้าของแบรนด์ BWILD Isan กล่าวปิดท้าย

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน