ดูไว้! 3 ประสบการณ์วิกฤต จากแบรนด์ดัง ที่เคยเกือบเหลือแต่ชื่อมาแล้ว

Text : Sir.nim


     กว่าจะประสบความสำเร็จให้เราเห็นอย่างทุกวันนี้ได้ หลายแบรนด์ดัง ต้องเคยผ่านอุปสรรคกันมาบ้าง จนหลายแบรนด์เกือบเคยสิ้นชื่อ ล้มละลายมาแล้วก็มี แต่สุดท้ายก็กลับมาได้ พวกเขาผ่านมันมาได้ยังไง ลองมาถอดบทเรียนไปพร้อมกัน

Netflix : วิกฤตจากการปรับแพลตฟอร์มธุรกิจ โดยลืมฟังเสียงลูกค้า

     เมื่อเดือนกันยายน 2011 นาย Reed Hastings ซีอีโอของ Netflix ตัดสินใจครั้งใหญ่ประกาศการแยก Netflix ออกเป็น 2 บริการ บริการสตรีมมิ่ง และ บริการดีวีดี ออกจากกัน ภายใต้ชื่อใหม่ "Qwikster" สิ่งนี้ทำให้ลูกค้าเกลียด จนนักวิเคราะห์มองว่าอาจถึงจุดจบของ Netflix เพราะทำให้บริษัทสูญเสียสมาชิก 800,000 รายในชั่วข้ามคืน หุ้นร่วงลงกว่า 75% ในเวลาไม่กี่สัปดาห์

     Hastings ใช้เวลา 23 วันในการกอบกู้สถานการณ์ จากการได้รับเสียงโทรศัพท์จากทีมตอนตี 3 เปิดเผยให้เห็นว่า 40% ของลูกค้าที่ยกเลิกอ้างเหตุผล เพราะพวกเขาเกลียดการจัดการ 2 บริการแยกกัน โดยในตอนนั้น Netflix กำลังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการให้บริการเช่า DVD และบริการสตรีมมิ่ง ลูกค้ากำลังเรียนรู้เพื่อเริ่มเปลี่ยนจากใช้บริการเช่า DVD มาเป็นสตรีมมิ่ง แต่อยู่ดีๆ บริษัทมาบังคับให้เลือก โดยการแยกทั้งสองบริการออกจากการอย่างชัดเจน จึงทำให้ลูกค้าโกรธ ดังนั้นบางอย่างธุรกิจก็ควรรอ ให้เวลาเป็นผู้ตัดสิน ลูกค้าจะเป็นผู้เลือกเองว่าสินค้าบริการไหนจะอยู่ หรือไปในวันที่เขาพร้อม และเข้าใจดีแล้ว

Nintendo : วิกฤตผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า

     วิกฤตของ Nintendo ในปี 2011 เกิดจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เป็นไปตามคาด ด้วยการเปิดตัว Nintendo 3DS ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี 3 มิติที่ไม่ต้องใช้แว่นตาก็สามารถดูได้ โดยหวังอยากให้เป็นความสำเร็จทางนวัตกรรมครั้งใหญ่ของบริษัท แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่สูงเกินไป และตัวเกมไม่น่าดึงดูดความสนใจเท่าที่ควร บวกกับในขณะนั้นมีการเข้ามาตลาดเกมมือถือและสมาร์ทโฟนเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับเกมบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น ยอดขายของบริษัทจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง

     กลยุทธ์ที่ Nintendo นำมาใช้แก้เกมธุรกิจ คือ ประกาศลดราคา Nintendo 3DS ลงทันที 50% ซึ่งก็ทำให้ยอดขายกลับคืนมา แม้จะต้องลดราคาจาก 250 เหรียญ เป็น 170 เหรียญ จนทำให้ไตรมาสแรกขาดทุนถึง 37,700 ล้านเยน (297 ล้านดอลลาร์)

     นอกจากนี้ซีอีโอของแบรนด์เอง ก็ยอมลดเงินเดือนลง 50% เพื่อแสดงความรับผิดชอบและช่วยเหลือบริษัทด้วย จากการแก้ไขปัญหาด้านราคายังมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ และปล่อยเกมฮิตและพอร์ตเกมเดิมที่เคยนิยม พัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ เช่น Mario 3D Land และ Mario Kart 7 เพื่อกระตุ้นความสนใจและสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ซื้อ, การโปรโมตประสิทธิภาพของ Nintendo 3DS ในการเล่นเกม 3 มิติ ไม่ต้องใช้แว่นตาให้รู้จักมากขึ้น ไปจนถึงการมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการพัฒนาสินค้าสู่กลุ่มตลาดใหม่ เช่น เกมบนมือถือ โดยใช้จุดแข็งของแบรนด์ผู้สร้างความสนุกจากวิดีโอเกมพัฒนาแบรนด์ต่อไป

Aribnb : วิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โลกบีบบังคับ

     ในช่วงโควิด-19 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักสุดย่อมไม่พ้นการท่องเที่ยวและการโรงแรม Airbnb สตาร์ทอัพให้บริการจองที่พักก็เป็นหนึ่งในนั้น ในปี 2020 บริษัทขาดทุนถึง 72% เพราะรายได้ลดลงรุนแรง จากการหยุดเดินทางทั่วโลก

     สิ่งที่ผู้บริหาร Aribnb ทำ ก็คือ การพยายามควบคุมกับสิ่งที่สามารถทำได้ เช่น การเจรจาชะลอจ่ายหนี้ ไปจนถึงการปรับลดพนักงานลง เพื่อลดรายจ่าย ด้วยการดูแลชดเชยอย่างดีที่สุดให้ เช่น การให้หุ้นบริษัท, การหางานให้ใหม่, การให้สวัสดิการเงินชดเชย และการประกันสุขภาพ จนทำให้ได้รับคำชื่นชม นอกจากนี้ยังมีการปรับแผนธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงการเข้าพักหรือแก้ไข หากไม่สามารถเดินทางได้, ให้ส่วนลด สำหรับเช่าระยะยาว, เน้นการพักในท้องถิ่น Staycation ให้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาการกักตัว ไปจนถึงการตัดสินใจขาย IPO ในปี 2020 เพื่อระดมทุน ต่อสายป่านไปต่อให้ธุรกิจอยู่รอดท่ามกลางวิกฤต จนได้รับเงินจากการระดมทุนสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม