'เงินทุนเคลื่อนย้าย' SMEs ต้องรู้ก่อนลุย AEC

 

   
     มาตรการด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายเป็นหนึ่งในมาตรการที่ผู้ประกอบการ SMEs ต้องทำความเข้าใจก่อนการไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการผ่อนคลายด้านการลงทุนในต่างประเทศ ในช่วงปี 2012-2013 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ สนับสนุนการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเสรี AEC ที่กำลังจะมาถึง
 
การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ
 
มาตรการเดิม บุคคลธรรมดาลงทุนได้ไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และนิติบุคคลสามารถลงทุนโดยตรงในต่างประเทศได้เสรี ไม่จำกัดจำนวนตั้งแต่ปี 2010
 
มาตรการใหม่ ผ่อนคลายให้บุคคลธรรมดารวมถึง SMEs สามารถลงทุนโดยตรงในต่างประเทศได้ไม่จำกัดวงเงิน 
 
การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศ 
 
มาตรการเดิม อนุญาตให้ผู้ลงทุนสถาบันเพียง 8 ประเภท อาทิ กองทุนของรัฐ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทขนาดใหญ่ และกำหนดวงเงินยอดคงค้างการลงทุนสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
 
มาตรการใหม่  เพิ่มประเภทผู้ลงทุนสถาบันประเภทที่ 9 คือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และไม่จำกัดวงเงินผู้ลงทุนต่อราย และเพิ่มประเภทตราสารที่ผู้ลงทุนประเภทสถาบันสามารถลงทุนได้ โดยให้รวมถึงตราสารสกุลเงินตราต่างประเทศที่ออกและเสนอขายในไทย 
 
บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ
 
มาตรการเดิม กำหนดวงเงินและระยะเวลาในการฝากเงินตราต่างประเทศในบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศในไทย (บุคคลธรรมดา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี และบริษัท 100 ล้านดอลลารสหรัฐ/ปี)
 
มาตรการใหม่  อนุญาตให้บุคคลในประเทศฝากเงินตราต่างประเทศกับสถาบันการเงินในประเทศแบบมีภาระผูกพันได้ไม่จำกัดวงเงินและระยะเวลา 
 
การบริหารความเสี่ยง
 
มาตรการเดิม ในการยกเลิกการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนได้ตามกรณีที่กำหนดเท่านั้น โดยต้องขออนุญาตจากธปท.เป็นรายกรณีไป
 
มาตรการใหม่  อนุญาตให้บุคคลในประเทศที่ได้ทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศ สามารถยกเลิกการป้องกันความเสี่ยง (unwind hedging) ได้เสรี
 
มาตรการใหม่อื่นๆ
 
ผ่อนคลายคุณสมบัติและขยายวงเงินในการประกอบธุรกิจ money changer/ money transfer agent เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการแลกเปลี่ยนและโอนเงินตราต่างประเทศ
 
ผ่อนคลายการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (nonresident: NR) เช่น ขยายวงเงินที่สถาบันการเงินในประเทศปล่อยสภาพคล่อง/กู้ยืมเงินบาทกับ NR แบบไม่มีการค้าการลงทุน (underlying) รองรับเป็น 500 ล้านบาทต่อกลุ่ม NR ต่อสถาบันการเงิน และอนุญาตให้สถาบันการเงินในประเทศปล่อยกู้เงินบาท (direct loan) ให้แก่ NR เพื่อการค้าการลงทุนในประเทศได้
 
มาตรการผ่อนคลายเงินทุนดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินออกนอกประเทศได้สะดวกมากขึ้น ทำให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดและฐานการผลิต ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ 
 
วิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย

RECCOMMEND: FINANCE

ใครเก็บเงินไม่เคยอยู่!   มาดู 6 แนวคิดการออมฉบับเด็กมัธยม ที่ง่ายจนผู้ใหญ่บางคนยังคิดไม่ถึง

ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วมันหัวหมุนไม่รู้จะจัดการทางการเงินยังไง? มาหาคำตอบได้จาก วิน – ภาสวิน ตันตินิติ นักการเงินวัย Teen ที่จะเฉลยให้รู้ว่า แค่มีเบสิกแน่นๆ และลงมือทำอย่างจริงจัง เรื่องการเงินที่ใครก็ว่ายาก อาจจะไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเสมอไป

EXIM BANK เปิดตัว “EXIM 2X” ปั้น GEN Y สู่เวทีการค้าโลก

EXIM BANK เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ GEN Y เจ้าของธุรกิจและทายาทรุ่นใหม่ สู่การเป็นนักรบเศรษฐกิจบนเวทีโลก ผ่านหลักสูตร “EXIM 2X” ที่มุ่งสร้างผู้ส่งออกไทยรายใหม่ปีละกว่า 100 บริษัท

ปิดตายจุดเสี่ยง 6 Trick ป้องกันทุจริตการเงินง่ายๆ ในธุรกิจ

เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร…การรอบคอบ ป้องกันเอาไว้ก่อน คือ สิ่งดีที่สุด นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ยังเป็นการช่วยปิดความเสี่ยง ยิ่งปิดได้มากเท่าไหร่ ธุรกิจก็ปลอดภัย ดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นเท่านั้น