ผู้นำ 4.0 ต้องรู้เรื่องนี้! The Future of Work เทรนด์เปลี่ยนโลกการทำงานอนาคต (1)

 



Main Idea
 
  • หนึ่งในความรู้ความสามารถที่ผู้นำยุค 4.0 จำเป็นต้องมี คือ การเชื่อมต่อบุคลากรภายในองค์กรให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก (Connecting People to the Outside World)
 
  • ทว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ของหัวหน้าระดับผู้จัดการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกภายนอกองค์กร เพราะพวกเขามักให้ความสนใจกับทักษะทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง (Technical & Functional Skills) มากกว่า
 
  • การพัฒนาความรู้ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานและนำพาทีมงานให้ก้าวผ่านความผันผวน และความคลุมเครือของโลกยุคปัจจุบันได้นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง และนี่คือแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกการทำงานยุคใหม่ที่ SME ต้องรู้!


 
 
     ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต 10 ประการ ให้กับสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้ชื่อ The Future of Work


     ขออนุญาตทยอยนำมาลงให้ทุกท่านอ่านเผื่อเป็นประโยชน์นะครับ





     ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) หุ่นยนต์ (Robot) หรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ที่จะมาทำหน้าที่บางอย่างแทนมนุษย์ในอีกไม่ช้า


     แนวโน้มเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการทำงานของพวกเราทุกคนไม่มากก็น้อย ผู้นำจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างทักษะใหม่ๆ ให้ทีมงานและบุคลากรในองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อม ให้อยู่รอดและเติบโตสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวกราก  





     จากผลการวิจัยของ Zenger & Folkman สถาบันที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหาร สัญชาติอเมริกา พบว่า หนึ่งในความรู้ความสามารถ (Competency) ที่ผู้นำยุค 4.0 จำเป็นต้องมี คือ การเชื่อมต่อบุคลากรภายในองค์กรให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก (Connecting People to the Outside World)


     ในขณะที่ Dr.Herminia Ibarra ศาสตราจารย์ด้านภาวะผู้นำ (Professor of Leadership) ของมหาวิทยาลัย INSEAD ประเทศฝรั่งเศส ยืนยันว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ของหัวหน้าระดับผู้จัดการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกภายนอกองค์กร เพราะพวกเขามักให้ความสนใจกับทักษะทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง (Technical & Functional Skills) เท่านั้น
จึงมองข้ามการพัฒนาความรู้ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานและนำพาทีมงานให้ก้าวผ่านความผันผวน ความไม่แน่นอน ความสลับซับซ้อน และความคลุมเครือของโลกยุคปัจจุบัน ไปอย่างน่าเสียดาย


     ผมจึงขอนำแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกของการทำงาน 10 ประการ ที่ทุกท่านควรทราบ มาฝากเป็นอาหารสมอง  โดยจะเริ่มจาก 3 ข้อแรกดังนี้





1. New Types of Retirement Plan : โลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผลกระทบที่ตามมาคือสัดส่วนของผู้เกษียณอายุซึ่งต้องพึ่งพิงคนทำงานจะเพิ่มสูงขึ้น ประเทศแถบตะวันตกและญี่ปุ่น เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมแบบนี้ เพียงแต่คนของเขามีเงินเก็บเพียงพอที่จะเลี้ยงดูตนเอง และรัฐบาลก็ร่ำรวยพอที่จะจัดสวัสดิการต่างๆ ให้กับประชากรของเขา
แต่อีกหลายประเทศ รวมทั้งไทยด้วย ยังไม่พร้อม ดังนั้นแนวโน้มต่อไปในอนาคต ประเทศต่างๆ จะเลียนแบบสิงคโปร์ ที่บังคับคนทำงานทุกคนให้ลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ต่อเดือนและจะนำเงินเหล่านั้นกลับมาใช้ได้เมื่อเกษียณแล้วเท่านั้น ส่วนผู้ที่ไม่สามารถออมเงินได้เพียงพอเมื่อถึงเวลาเกษียณ ก็ยังคงต้องทำงานต่อไป





2. Big Data : สมัยก่อนเมื่อติดขัด มีปัญหา หรือไม่สามารถตัดสินใจได้ เรามักได้ยินคำอ้างคลาสสิกว่า “ข้อมูลไม่พอ” แต่ทุกวันนี้ ปัญหาส่วนใหญ่กลับมาจากการมี “ข้อมูลมากเกินไป”​ จนไม่รู้ว่าข้อมูลไหนจริงหรือเท็จและจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ดังนั้นความสามารถในการบริหารจัดการและใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีจำนวนมหาศาล (Big Data) จะเป็นตัวตัดสินว่า ใครจะอยู่และใครจะไป ใครจะประสบความสำเร็จและใครจะไม่ประสบความสำเร็จ





3.Telediagnostics, Remote Maintenance & Upkeep : ในอนาคตอันใกล้ เราจะไม่ต้องจ้างช่างมาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านอีกต่อไป เพราะพัฒนาการของระบบอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีจะทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่างสามารถนั่งอยู่ที่บ้านเขา ต่ออินเตอร์เน็ตเข้ามาที่บ้านเรา แล้วซ่อมหรือแนะนำให้เราซ่อมได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย


     วันนี้แค่นี้ก่อน อีก 7 ข้อที่เหลือขอยกยอดไปครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ




 
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย