​มาจัดระเบียบข้อมูลกันดีกว่า




แปลและเรียบเรียง : เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ

    สภาวะข้อมูลล้นตลาด ผู้ประกอบการหลายท่านอาจกำลังมึนงงไม่รู้จะจัดการข้อมูลจำนวนมหึมารอบตัวได้อย่างไร ก็ข้อมูลโจมตีเราตลอดวันและทุกทิศทาง ทั้งทางอินเตอร์เนต ทางเพื่อนฝูง ทางโทรทัศน์วิทยุ หรือจะเป็นบิลบอร์ดประกาศ เราจะจัดข้อมูลเหล่านี้เป็นระบบและระเบียบและดึงมาใช้ยามจำเป็นยังไงดี

    1.แยกข้อมูลสำคัญออกจากข้อมูลขยะ ลองนึกภาพขยะกองพะเนินเท่าภูเขา ท่ามกลางกองขยะขนาดใหญ่ อาจมีขยะราคาแพงมูลค่าสูงซุกซ่อนอยู่ รอให้คนขับซาเล้งสายตาแหลมคมจับแยกส่วนและนำไปขายทำเงินเข้ากระเป๋า    แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนขับซาเล้งจำเป็นต้องคุ้ยหาท่ามกลางขยะกองมหึมา ซึ่งคงต้องใช้เวลาไม่ใช่น้อยทีเดียว หรือบางทีอาจไม่คุ้มค่าเหนื่อยก็ได้

    เฉกเช่นเดียวกับข้อมูลกองโต ที่มีทั้งข้อมูลขยะและข้อมูลสำคัญอยู่ หากผู้ประกอบการต้องการหยิบใช้ แต่ต้องเสียเวลาไปกับการไล่หาข้อมูล คงจะไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรจะต้องแยกลำดับความสำคัญเสียก่อน โดยจัดลำดับความสำคัญเป็น เกรด A B หรือ C โดยข้อมูลไหนที่ประยุกต์ใช้กับกิจการได้ง่าย เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการโดยตรง ก็จัดเป็นข้อมูลระดับ A ข้อมูลไหนไม่เกี่ยวข้องนักแต่อาจใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตก็จัดเป็น B หรือ C ตามความเหมาะสม การจัดข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถหยิบนำมาใช้ได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งนึกว่าเอาไปเก็บไว้ตรงไหนให้เสียเวลา


    2.จัดหมวดหมู่ข้อมูล ข้อมูลที่กระจัดกระจายคงไม่ต่างอะไรกับโต๊ะทำงานอันแสนรก จะหาสิ่งของแต่ละครั้งแสนลำบากต้องรื้อต้องค้นชวนอารมณ์หมอง ซึ่งเมื่อคุณแยกลำดับความสำคัญของข้อมูลแล้ว ก็ควรต้องจัดหมวดหมู่ข้อมูลเสียด้วย เพื่อช่วยย่อนระยะเวลาในการสืบค้นและนำข้อมูลออกมาใช้ เพราะฉะนั้นข้อมูลไหนอยู่หมวดหมู่เดียวกันก็จัดเก็บไว้ด้วยกันเสียเลยจะได้ง่ายต่อสมองในการจดจำด้วย

    3.เสาะหาความเชื่อมโยง ข้อมูลแต่ละชิ้นอาจมีเส้นบางๆโยงมันเข้าด้วยกันขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นเส้นบางๆเหล่านี้หรือเปล่า การหาความเชื่อมโยงของข้อมูลจะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ๆเกิดจากการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งนั้นแหละ เหมือนดังคำพูดของ Steve Job ศาสดา Apple เคยกล่าวไว้ว่าApple เกิดจากการเชื่อมแต่ละจุดเข้าด้วยกัน
 

    กระบวนการรับมือข้อมูลล้นหลามเปรียบเสมือนตะแกรงร่อนข้อมูลไม่จำเป็นออกจากสมองและเก็บข้อมูลสำคัญที่ช่วยพัฒนากิจการไม่ว่าทางได้ทางหนึ่งไว้ เพราะข้อมูลที่ผ่านเข้ามาทักทายเราในแต่ละวันนั้นสมองมนุษย์สองขาอย่างเราจำไม่หวาดไม่ไหวแน่ๆ

    แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก http://smallbiztrends.com/

Create by smethailandclub.com

RECCOMMEND: MANAGEMENT

สมองไม่ได้ล้าเพราะงาน แต่เพราะจอที่ไม่เคยพัก 9 วิธีง่ายๆ ในการฟื้นตัวจาก Digital Burnout

เหนื่อยทั้งวัน ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรมาก? บางทีเราอาจไม่ได้ล้าเพราะงาน…แต่ล้าเพราะ “จอ” ลองคืนพื้นที่ให้สมองอีกนิด ปิดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ไถฟีดให้น้อยลง และทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้ไกลก่อนนอนสักชั่วโมง ก็จะรู้สึกได้เลยว่า…หัวใจเบาขึ้นเยอะ

เปิด กฎ 8-8-8 สูตรลับจัดสรรเวลา หนุนธุรกิจ SME ให้ปัง ชีวิตส่วนตัวให้รุ่ง   

ทำธุรกิจไม่ง่าย แต่การดูแล “ตัวเอง” ให้ไหวตลอดทางก็สำคัญไม่แพ้กัน พบกับ กฎ 8-8-8 สูตร(ไม่)ลับแห่งการจัดสรรเวลา ที่คนทำ SME ควรจำไว้เสมอว่า 8 ชั่วโมง “ทำงานเต็มที่”, 8 ชั่วโมง “เติมพลังให้ชีวิต” และอีก 8 ชั่วโมง “นอนพักให้เต็มอิ่ม”

รู้จัก Meeting Hangovers อาการ “เมาค้างหลังประชุม” ที่สูบพลังคุณจนหมดแรง 

ประชุมเสร็จแต่เหมือนผ่านศึกหนัก สมองเบลอ หัวใจหมดไฟ ร่างกายหมดแรง งานตรงหน้าก็ยังไม่ขยับ นี่แหละที่เขาเรียกว่า Meeting Hangovers หรืออาการเมาค้างหลังประชุม ใครที่เป็นผู้ประสบภัยในเรื่องนี้ เรามีวิธีแก้แฮงค์ดีๆ มาฝาก