สนั่น อังอุบลกุล บริหารองค์กรต้อง “เปลี่ยนแปลง” ตลอดเวลา

     

 

       หนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของประเทศไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ปัจจุบันลูกค้าของศรีไทยซุปเปอร์แวร์กระจายไปทั่วโลกกว่า 110 ประเทศ แม้กระทั่งองค์กรนาซ่ายังทดลองใช้สินค้าภาชนะอาหารซึ่งใช้บนนอกโลกได้ ปัจจัยความสำเร็จที่ สนั่น อังอุบลกุล ยึดมาโดยตลอด คือองค์กรต้องมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลารับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ย้อนอดีตหลักแนวคิดสู่การเป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่การเป็นลูกจ้างในบริษัทนำเข้าเครื่องฉีดพลาสติกสัญชาติเยอรมันตั้งแต่จบปริญญาตรี ซึ่งถือว่าโชคดีที่ได้อยู่ในองค์กรที่มีระบบบริหารจัดการที่ดี ไม่ทำงานตามอารมณ์ ยึดหลักเหตุผลเท่านั้น มีกฎกติกาชัดเจนที่สามารถอธิบายได้และพนักงานทุกคนต้องทำทุกหน้าที่ได้ 
 
“ผมทำทุกหน้าที่ตั้งแต่งานธุรการจนถึงประชุมกับผู้จัดการ ทำให้ผมรู้ภาพกว้างทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบของการทำธุรกิจ และทำให้รู้ว่าถ้าคิดจะสร้างตัวต้องไม่ทำธุรกิจซื้อมาขายไปแต่ต้องมีเทคโนโลยีในตัวเอง”
 
หลังจากนั้น สนั่นกลับเข้ามาทำงานที่ศรีไทยพลาสติกซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว จากนั้นเขาพยายามปรับรูปแบบการบริหารให้เป็นมืออาชีพด้วยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังคงความเป็น “เถ้าแก่มืออาชีพ” หลักการคือต้องตัดสินใจจากสิ่งที่เห็นและเกิดขึ้นจริงไม่อิงตามตำรา แต่ต้องอธิบายที่มาที่ไปได้ จนกระทั่งบริษัทเริ่มพัฒนาตนเองจากผู้ผลิตพลาสติกมาเป็นผลิตภัณฑ์เมลามีนจนได้รับการยอมรับ มีลูกค้ากว่า 110ประเทศในปัจจุบัน
 
 
สิ่งที่ศรีไทยฯ ยึดเป็นแนวทางธุรกิจมาโดยตลอดคือจะต้องทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงาน สำคัญ คือ จะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แม้ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจปี2550 บริษัทไม่ได้ชะลอการลงทุนมูลค่า 3,000 ล้านบาทเพื่อซื้อเทคโนโลยีเครื่องจักรใหม่ เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นเพียงวิกฤติชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเป็นธุรกิจที่ลอกเลียนแบบ และแข่งตัดราคากันหรือที่เรียกว่าธุรกิจ Me Too ศรีไทยฯ จะไม่ทำ นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาพนักงานให้มีความสามารถขึ้นด้วยไม่ใช่ทำงานไปวันๆ
 
ต่อมาการทำธุรกิจต้องเสริมจุดแข็งจุดอ่อนระหว่างกัน ในรูปแบบของการร่วมธุรกิจกับซัพพลายเออร์หรือลูกค้าในรูปแบบพันธมิตร เช่น ที่ไปร่วมมือกับปูนซีเมนต์ไทยหรือปตท.โกลบอลเคมีคอลพัฒนาวัตถุดิบประหยัดพลังงาน เป็นต้น 
 
ที่สำคัญ คือ การทำธุรกิจจะต้องโตและแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ศรีไทยฯ มองโอกาสนี้มานานซึ่งเป็นทั้งโอกาสและปัจจัยคุกคาม นอกจากนั้น การลงทุนทุกครั้งต้องสอดคล้องกับแนวทางพัฒนาประเทศ อย่างเช่น ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จำเป็นต้องสร้างความั่นคงทางอาหารเป็นครัวของโลก ศรีไทยฯ จึงได้ลงทุนพัฒนาภาชนะใส่อาหารเครื่องดื่มรองรับการขยายตัว ทำให้ตอนนี้เราสามารถผลิตฝาปิดขวดน้ำที่เบาที่สุดในโลกได้
 
สนั่นกล่าวถึงแนวคิดและปรัชญาในการบริหารให้ประสบความสำเร็จจะต้อง
 
        หนึ่ง...กล้าทำ อย่างเช่น สมัยวิกฤตเศรษฐกิจโลก 2550 ถ้ามั่นใจว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราวไม่เหมือนสมัยปี2540 ต้องกล้าลงทุนไปเลย 
 
        สอง...มีเครือข่ายครบทุกด้าน เพราะจะทำให้เรามีข้อมูล แหล่งทรัพยากรที่รอบด้าน และอาจเจอแหล่งวัตถุดิบทรัพยากรที่ถูกและดี หรือแม้กระทั่งภาวะวิกฤตเราจะสามารถช่วยเหลือกันได้
 
สาม...ต้องรักษาเครดิต ความน่าเชื่อถือ เงินทองเสียได้แต่เครดิตห้ามเสียเด็ดขาด สี่..ไม่อยู่นิ่ง ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังจะเห็นได้จากตราสัญลักษณ์ของบริษัท ซึ่งเป็นนกเพนกวิน มีความหมายเพราะเป็นสัตว์ที่น่ารักไม่มีพิษภัยและสามารถปรับตัวเข้ากับทุกสภาพอากาศไม่ว่าหนาวหรือร้อน เดินบนบกจะช้าแต่ถ้าลงในน้ำจะไวเหมือนจรวด เหมือนกับการทำธุรกิจที่บางครั้งต้องช้าบางครั้งก็ต้องเร็ว 
 
 
ที่สำคัญบริษัทมุ่งเน้นให้พนักงานมีแนวความคิดดังกล่าวด้วยว่าไม่มีสิ่งใดดีที่สุด ต้องมีการหาสิ่งใหม่เสมอ จึงเกิดเป็นปรัชญาการบริหาร TPM โดย T คือ Technology จะต้องมีความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น ศรีไทยฯ เป็นผู้ผลิตเมลามีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 
        P คือ People ต้องลงทุนเสริมสร้างศักยภาพคน บางบริษัทอาจส่งคนไปเรียนสถาบันมีชื่อในต่างประเทศไม่กี่คน และนำมาถ่ายทอด แต่ศรีไทยฯ ลงทุนนำผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาสอนให้พนักงานทุกคนถึงที่
 
       ส่วน M คือ Management ที่ศรีไทยฯ มีระบบการจัดการโดยใช้ LEAN หลักการ คือทำงานต้องไม่เปลืองทรัพยากรคนและวัตถุดิบและเน้นประสิทธิภาพออกมาให้สูงที่สุด กล่าวคือ ระบบการผลิตการตลาดต้องเป็นจริง ตรวจสอบได้ทันที เช่น เครื่องจักรต้องรู้ว่าจุดไหนหยุดผลิตและเพราะอะไร ฝ่ายการตลาดต้องเช็กยอดสินค้าและรู้ต้นทุนได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามีปัญหาจะต้องหาผู้รับผิดชอบได้ทันที
 
“ปรัชญาสุดท้ายเราต้องทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าทำไม่ได้ อย่างเช่น ฝาปิดขวดน้ำที่บางและเบาที่สุด หรือภาชนะที่สามารถนำขึ้นไปใช้ที่ดวงจันทร์ได้ เราก็เป็นผู้ผลิตขึ้นมาให้นาซ่า ถ้าอนาคตมีความต้องการใช้จริงเขาจะต้องการสินค้าของเราเอง วิธีคิด คือ ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ฮึกเหิมกับทั้งตัวผมและพนักงาน”
 
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ประสบปัญหา วิธีการแก้ไข คือต้องมีความรู้ความชำนาญเพื่อที่จะมองเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน แนวคิดนี้ได้มาจากผู้นำของจีนท่านหนึ่งว่าเมื่อเกิดปัญหาเราต้องมองข้ามแต่ไม่ใช่ละเลย ถ้ายังคิดวนไปวนมาความเสียหายก็ยังอยู่และจะส่งผลต่อคนอื่นด้วย ให้เราไปทำสิ่งใหม่ที่มองไปข้างหน้า สักพักที่เคยเป็นปัญหาก็จะไม่ใช่ 
 
“มีคำกล่าวว่าเลี้ยงกองทัพไว้ 100 ปีเพื่อสู้ศึกครั้งเดียว เราต้องมองก้าวข้ามปัญหาไปให้ได้ถึงจะได้ชัยชนะ”
 
สำหรับเป้าหมายของศรีไทยฯ ในยุคต่อไป สนั่นบอกว่า AEC 2015 บริษัทได้เตรียมพร้อมแข่งขันมากว่าสามปีแล้ว เริ่มจากเปลี่ยนวิธีคิดภายในให้มีการพัฒนาสินค้ารองรับคนกว่า 600 ล้านคน ปัจจุบันเรามีลูกค้าครบทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน และกำลังขยายไปถึงออสเตรเลีย ก้าวต่อไป คือ การขยายฐานผลิตไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างตอนนี้เรามีโรงงานที่อินโดนีเซีย เวียดนาม กำลังสร้างที่ลาว และมีแผนจะไปพม่าและกัมพูชา ขณะที่ประเทศจีนเราเข้าไปทำตลาดมา 22 ปีแล้ว และต่อไปคืออินเดีย
 
ปัจจัยที่มีผลต่อการแข่งขัน คือ เรื่องแรงงานต้องเปลี่ยนวิธีการจากเดิมเน้นแรงงานจำนวนมากหรือ Labor Intensive ต้องเปลี่ยนมาเน้นเครื่องจักรให้เป็น Capital Intensive หรือการแข่งขันโดยใช้เงิน มากขึ้น แต่อนาคตเราน่าจะใช้ประโยชน์จากแรงงานต่างชาติต้นทุนต่ำได้อย่างถูกกฎหมายมากขึ้น.
 
สนั่นปิดท้ายเรื่องแนวคิดการเป็นซีอีโอที่ดีว่าจะต้อง “ติดดิน” ลูกน้องเข้าถึงได้ ต้องมีการกระจายอำนาจ สร้างความผูกพันกับพนักงาน ส่วนแนวทางการบริหารธุรกิจเอสเอ็มอีให้ประสบความสำเร็จ ต้องให้ความสำคัญกับระบบการผลิตต้องมีของเสียให้น้อยที่สุด จัดการระบบการเงินให้ดีอย่าให้รั่ว และสุดท้ายต้องสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็ง
 
ที่มา : K SME Inspired

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย