ผู้นำที่ดีต้องวาง “อัตตา” โดย โค้ชจิมมี่-พจนารถ ซีบังเกิด



 
 Main Idea
 
 
  • SME ส่วนใหญ่มักเริ่มต้นธุรกิจจาก Passion เติบโตจนกลายเป็นธุรกิจ  ซึ่งในบางครั้งอาจหลงลืมไปว่า จุดเริ่มต้นที่ทำธุรกิจนี้จริงๆ เพื่ออะไร หลงยึดติดหรือกอดธุรกิจเอาไว้แน่น เพราะถือว่าเป็นความสำเร็จ เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง
 
  • ในวันที่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกๆ คือการลดอัตตาของตนเองลง SME ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริง โดยไม่มีอัตตา กล้าที่จะบอกพนักงานว่าไปต่อไม่ไหว กล้าที่จะยอมรับกับการไม่มีรายได้ กล้าที่จะขอความช่วยเหลือจากใคร พร้อมที่จะ ยอมรับ ปรับตัวและหาทางออก
 
  • หากผู้นำองค์กรหรือเจ้าของกิจการมีภาวะผู้นำที่ดี เป็น Leadership ที่แข็งแรง  วางอัตตาของตัวเองลง ก็จะสามารถนำพาองค์กรและทีมงานให้ก้าวผ่านไปได้ในทุกสถานการณ์
 
 
 

     จุดเริ่มต้นของ SME ส่วนใหญ่ มักเริ่มต้นจาก Passion หรือความชอบ และเติบโตจนกลายเป็นธุรกิจ  ซึ่งหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน SME ก็คือมนุษย์ 1 คนที่ต้องดำรงตน ต้องหาเลี้ยงตัวเอง ต้องมีปฏิสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกับผู้อื่น ซึ่งในบางครั้งอาจจะลืมไปว่า จุดเริ่มต้นที่ทำธุรกิจนี้ เราทำเพื่ออะไร? หลงยึดติดหรือกอดธุรกิจเอาไว้แน่น เพราะถือว่าเป็น Success หรือความสำเร็จซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของเรา







     ทว่าพอมาถึงวันหนึ่งสภาวะแวดล้อม ปัจจัยและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแบบคาดไม่ถึง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  และมาถึงจุดเปลี่ยนที่เราต้องคิดใหม่และหาวิธีที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง
              

     นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องดึงภาวะผู้นำออกมาใช้ โดยต้องเป็นผู้นำที่ดีที่มีทักษะในการช่วยให้ทีมงานเข้าใจความเป็นไปในชีวิตของตนเอง มองเห็นสาเหตุอันเป็นที่มาของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง โดยไม่มีการตัดสินหรือชี้นำใดๆ ต้องมีความเป็นกลาง เข้าใจธรรมชาติของการดำรงชีวิต ซึ่งทักษะที่จำเป็นเหล่านั้น ได้แก่ การดำรงตนเป็นผู้น่าไว้วางใจ เป็นผู้ฟังที่ได้ยินมากกว่าสิ่งที่คู่สนทนาพูด มีทักษะการสื่อสาร เพื่อพาทีมงานให้ก้าวไปข้างหน้า ก้าวไปสู่เป้าหมายในทุกๆ ด้านของชีวิตอย่างสร้างสรรค์และมีจริยธรรม
              






     อีกหัวใจสำคัญยิ่ง คือ ผู้นำที่ดีต้องรู้จักวางอัตตา  โดยเจ้าของกิจการหรือผู้นำองค์กรควรรับฟังและทบทวนตัวเองว่า ทำธุรกิจนี้เพื่ออะไร ซึ่งจะทำให้มีทิศทางที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบของธุรกิจ เราต้องเข้าใจและยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ ในวันที่เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการ SME รู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง แนะนำให้ทบทวนอัตตาหรือตัวตนของตนเอง ต้องกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่มีอัตตาของตัวเองมาขวางหน้า เช่น กล้าที่จะไปขอลดค่าใช้จ่ายหรือขอลดการผ่อนชำระหนี้กับแบงก์ กล้าที่จะบอกกับลูกน้องหรือพนักงานหากธุรกิจไปต่อไม่ได้แล้ว


     การสื่อสารและความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องสื่อสารให้พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องรับรู้และเข้าใจว่าสถานการณ์ของบริษัทเป็นอย่างไร ทั้งเจ้านายและลูกน้องต้องยอมรับความจริงให้ได้ ถ้าบริษัทไม่มีรายได้ก็ต้องยอมรับ ปรับตัว ให้กำลังใจกัน ร่วมรับผิดชอบและหาทางออกร่วมกัน เพราะหากผู้นำองค์กรหรือเจ้าของกิจการมีภาวะผู้นำที่ดีเป็น Leadership ที่แข็งแรง จะสามารถนำพาองค์กรและทีมงานให้ก้าวผ่านไปได้ในทุกสถานการณ์







     สำหรับการจะก้าวผ่านวิกฤตต่างๆ ไปได้นั้น ผู้นำองค์กรหรือเจ้าของกิจการต้องตั้งสติ รับรู้ และยอมรับ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมของธุรกิจ เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจ ทั้งในเรื่องส่วนตัว ธุรกิจ และพนักงาน โดย 3 ปัจจัยแห่งการดำรงตนที่จะช่วยให้วิธีคิดและการตัดสินใจของผู้นำเป็นไปอย่างสมดุลและมีจริยธรรมต้องประกอบด้วย 1.Good for me คือ ดีต่อตัวเรา 2.Good for others คือ ดีต่อผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายคือ 3.Good for the greater good คือ ดีต่อสังคมมวลรวมและศีลธรรมจรรยา ซึ่งเราสามารถนำหลักปฏิบัติทั้ง 3 ข้อไปปรับใช้ได้ในทุกสถานการณ์เพื่อรับมือกับวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น
              

     เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่หยุดนิ่งและแน่นอน SME ทุกคนจึงจำเป็นต้องมีทักษะชีวิตซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงแข็งแรงจากภายใน เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตเพื่อให้สามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะปรับเปลี่ยนไปแบบใดก็ตาม รวมถึงการดำรงตนเป็นผู้ให้ ที่จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนผ่านสู่โลกวิถีใหม่ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบยั่งยืนทั้งในยุคปัจจุบันและในโลกอนาคต
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร