จับ 5 สัญญาณเมื่อคุณไม่แฮปปี้กับงาน

 



เรื่อง จ๊อบ ดีบีส์ (ประเทศไทย)

    ไม่ว่าเราจะเคยทำงานมานานแค่ไหน 1 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี มันต้องมีบางวันที่เรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุขในการทำงาน แต่เหตุผลที่ทำให้เราไม่มีความสุขในการทำงานของแต่ละคนค่อนข้างแตกต่างกัน บางคนไม่มีความสุขเพราะตัวงานในขณะที่บางคนไม่มีความสุขเพราะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าปัญหาเหล่านั้นจะเป็นอะไรก็ตาม นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถทำงานให้ออกมาได้ดีแน่ เพราะเรากำลังไม่มีความสุข

    ฉะนั้นเราลองมาสำรวจตัวคุณกันสักหน่อยดีกว่า ว่าเรากำลังไม่แฮปปี้กับการทำงานหรือเปล่า หากคุณเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ คุณคงต้องเริ่มระวังไว้ให้ดีเลยว่าชีวิตการทำงานของเรากำลังจะมีปัญหา หรืออาจจะทำให้การทำงานของเราไม่ดีเท่าที่ควร สัญญาณเหล่านั้นมีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน

1.      เกลียดวันจันทร์

    วันจันทร์ดูเหมือนว่าจะเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของคนทำงานหลายๆ คน  การที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหนีรถติด และมาทำงานให้ทันในวันจันทร์ ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ทรมาน การไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเรากำลังไม่แฮปปี้กับงาน และไม่มีพลังมากพอที่จะปรับตัวจากวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เพื่อมาทำงานในวันจันทร์

2.      งานนี้ยากเกินไป

    งานๆ หนึ่งที่เราเคยทำและสามารถทำได้ดีมาก่อน วันนี้กลับกลายเป็นงานที่เราไม่อยากทำ รู้สึกว่ายากเกินความสามารถ และคิดไปก่อนว่าคงทำไม่ได้ ความรู้สึกพ่ายแพ้ต่อการทำงาน เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรากลัว และขาดความสุขในการทำงาน การฝืนทนทำงานต่อไป ไม่เพียงแต่จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แต่ยังทำให้การทำงานของเราขาดประสิทธิภาพด้วย

3.      เพื่อนร่วมงานไม่น่าประทับใจ

    บางคนเริ่มรู้สึกว่าไม่แฮปปี้กับการทำงาน เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงาน แทนที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี แต่บางคนกลับกลายเป็นคู่แข่งขันของเราไป ความรู้สึกด้านลบที่มีต่อเพื่อนร่วมงาน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะบั่นทอนกำลังใจและความสุขในการทำงาน ยิ่งเรามีอคติกับเพื่อนร่วมงานมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งไม่อยากมาทำงานมากขึ้นเท่านั้น

4.      ทำงานเพราะจำเป็นต้องทำ

    หลายคนทำงานในลักษณะที่เรียกว่า “เช้าชามเย็นชาม” หรือทำงานเพราะเป็นหน้าที่จำเป็นต้องทำ ไม่ได้ทำงานเพราะอยากจะทำ หรือรู้สึกสนุกกับงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ความรู้สึกอย่างนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราไม่แฮปปี้กับการทำงาน

5.      งานไม่ท้าทาย

    งานยิ่งง่ายก็ยิ่งไม่ท้าทาย เมื่อเป็นงานไม่ท้าทายเราก็จะรู้สึกว่างานนี้ไม่น่าสนุก และไม่อยากทำงานนี้ หากรู้สึกเช่นนั้น เราอาจจะต้องหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ ว่าเราควรจะทำงานนี้ต่อไปอีกหรือไม่ หรือเริ่มมองหางานใหม่น่าจะดีกว่า เพราะการฝืนทำงานที่ไม่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ไม่เพียงแต่จะทำให้เราทำงานแย่ลง แต่ยังทำให้เราไม่ก้าวหน้าในการทำงานอีกด้วย

    การตั้งคำถามเพื่อให้ตัวเองได้ค้นพบคำตอบ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราพบกับทางออกของปัญหา ดีกว่าให้ตัวเราเองต้องตัดสินใจลาออกไปโดยที่ยังไม่รู้ว่าทำไมเราจึงไม่มีความสุข ทำไมเราจึงไม่รู้สึกสนุกกับงานเหมือนอย่างที่เราเคยเป็น การค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเองได้อย่างถูกต้อง

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย