4 ทักษะสำคัญที่ผู้นำองค์กรต้องเรียนรู้

 



        บริษัท ดีดีไอ ที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะผู้มีศักยภาพสูง (Talent Management Consultancy) ร่วมกับเดอะคอนเฟอเรนซ์บอร์ด สมาคมด้านการวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายงานวิจัยล่าสุดในหัวข้อ “Working Within the VUCA Vortex”  พร้อมแนะนำผู้นำองค์กรไทยควรมี 4 ทักษะสำคัญ เพื่อรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีอย่างเต็มรูปแบบปลายปี 2558 นี้          

           นายนิติพันธ์ พันธุ์วิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ดีดีไอ-เอเชีย/แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “VUCA ย่อมาจาก  Volatile (ความผันผวน), Uncertain (ความไม่แน่นอน), Complex (ความซับซ้อน) และ Ambiguous (ความไม่ชัดเจน) ซึ่งโดยรวมหมายถึงสถานการณ์ที่องค์กรและผู้นำองค์กรไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต 

    ทั้งนี้ จากรายงาน วิจัยล่าสุดหัวข้อ Working Within the VUCA Vortex ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลจากองค์กรธุรกิจหลายแห่งมองว่าผู้นำองค์กรของพวกเขานั้นไม่มีความ สามารถที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในด้านความผันผวน คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ความไม่แน่นอน 32 เปอร์เซ็นต์ ความซับซ้อน 36 เปอร์เซ็นต์ และความไม่ชัดเจน 31 เปอร์เซ็นต์ และำมีเพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ระบุว่าผู้นำองค์กรของพวกเขามีความสามารถมากพอ”    
    
    ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปลายปีนี้ ส่งผลให้ผู้นำองค์กรต่างต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สำคัญ ได้แก่ 1. การบริหารทรัพยากรบุคคลในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ เช่น อาจจะมีการแข่งขันเพื่อดึงตัวบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสายอาชีพในระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน  2. ความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ ความผันผวนในตลาดพลังงาน เป็นต้น  
    
    นอกจากนี้ ปัญหาที่พบในองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่คือ ผู้นำองค์กรมักจะมองไม่เห็นโอกาสและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาจจะมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วแนวคิด VUCA นี้มีมานานแล้ว ซึ่งผู้นำองค์กรที่ดีควรมองเห็นโอกาส ความท้าทาย และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจได้ รวมทั้งผู้นำองค์กรยังต้องเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไทยก้าวสู่ตลาดเออีซีซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าเดิมในปลายปีนี้


            ดังนั้น ผู้นำองค์กรไทยควรมีความพร้อมและทักษะที่สำคัญ 4 ข้อ ได้แก่

    1. Managing and introducing change มีความสามารถด้านการบริหารจัดการ คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และพร้อมให้คำแนะนำและรู้วิธีบริหารคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรไปในทางที่ดีได้   

    2. Building consensus and commitment การสร้างทีมหรือบุคลากรให้เห็นไปในทิศทางเดียวกันกับผู้นำ และเข้าใจสถานการณ์ว่าต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบหรือวิธีการทำงานใหม่ๆ 

    3. Inspiring others toward a challenging future vision ผู้นำต้องสามารถพัฒนาทีมและชี้แจงได้ว่าทำแล้วจะเห็นผลอย่างไร  

    4. Leading across generations  ผู้นำองค์กรที่ดีต้องมีความตื่นตัวและรู้ว่าควรจะบริหารบุคลากรในหลายๆ รุ่น หรือหลายๆ รูปแบบได้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเปลี่ยนงานตลอดเวลา
    
    “สำหรับมุมมองของดีดีไอเกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำองค์กรให้พร้อมก้าวสู่ตลาดเออีซีนั้น แบ่งออกเป็น   6 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ความคล่องตัว ความสามารถในการตอบสนอง และการปรับตัวอย่างรวดเร็วทางธุรกิจ  2. การวางแผนกลยุทธ์การบริหารกำลังคน   3. การค้นหาความพร้อม  4. การรวบรวมและการใช้ข้อมูล  5. เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้  และ          6. การบริหารจัดการ Talent อย่างยั่งยืน  ทั้งนี้เรามองว่าสิ่งสำคัญที่ผู้นำองค์กรที่ดีควรจะมีคือ ต้องมองให้ออกว่าความไม่แน่นอนต่างๆ จะเกิดผลกระทบอย่างไรกับแผนดำเนินธุรกิจขององค์กรล่วงหน้า ต้องสามารถบริหารองค์กร บริหารทีม บริหารทรัพยากรบุคคล และรู้วิธีที่จะนำพาองค์กรก้าวผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้” นายนิติพันธ์กล่าวสรุป

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย