เลือกใช้โลจิสติกส์ยังไงดี ให้เหมาะกับธุรกิจ แก้ปัญหาขนส่งไม่สะดุด

 

     เคยเป็นไหม? ขายของดีมาก แต่กลับมาติดปัญหาที่การขนส่ง เพราะเลือกบริษัท 

     เชื่อแน่ว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์หลายคนย่อมต้องเคยตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้อย่างแน่นอน คือ ขายสินค้าดี แต่พอถึงขั้นตอนการจัดส่งแล้วกลับเลือกใช้บริษัทขนส่งที่ขาดประสบการณ์ หรือมีการบริหารจัดการที่ไม่ดีพอ ทำงานไม่เป็นระบบ จนส่งผลให้เกิดความล่าช้า หรือข้อผิดพลาดในการจัดส่งสินค้าตามมาได้ วันนี้ วรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด แห่ง NOSTRA LOGISTICS แพลตฟอร์มสำหรับการบริหารงานขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจรจะมาสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นของบริษัทขนส่งในไทย พร้อมแนะแนวทางการเลือกใช้บริษัทโลจิสติกส์ให้ฟังกัน

3 ปัญหาคลาสสิกของบริษัทขนส่งไทย

     โดยเปิดเผยว่ากว่า 10 ปีที่ได้คลุกคลีกับผู้ประกอบการบริษัทขนส่งของไทย พบว่ามี 3 ข้อหลักๆ คือ

     1. ใช้ระบบที่แตกต่างกัน ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้ไม่สามารถทำงานเชื่อมต่อร่วมกันได้ เมื่อข้อมูลไม่เชื่อมโยง หรือได้ข้อมูลไม่ตรงกันในแต่ละระบบ สุดท้ายก็จะส่งผลทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลอดทุกกิจกรรมได้ เพื่อทำการตรวจสอบหรือวางแผนได้

     2. ไม่สามารถเชื่อมโยงระบบจากบริษัทคู่ค้าต่างบริษัทได้ โดยเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ผู้ประกอบการมักนิยมการเอาท์ซอร์สด้านโลจิสติกส์ และต้องการข้อมูลภาพรวมงานขนส่งทั้งหมด แต่บริษัทเอาท์ซอร์สต่างๆ อาจใช้ระบบสารสนเทศที่แตกต่างกัน จนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก ต้องอาศัยการว่าจ้างผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์มาช่วยดูแลแต่ละระบบให้ ทำให้เกิดความยุ่งยากเพิ่มมากขึ้น

     3. ระบบช่วยบริหารจัดการด้านต้นทุนการขนส่ง ซึ่งเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่งที่มีเงื่อนไขต่างๆ มาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้การใช้วิธีคิดต้นทุนตามความชำนาญของบุคคลอาจเกิดข้อผิดพลาดที่เป็น Human error ได้ง่าย และการพึ่งพาคนในการทำงาน ทำให้ไม่สะดวกและไม่ยั่งยืนในระยะยาว

 

     โดยในส่วนของต้นทุนการขนส่งนั้น พบว่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ได้ คือ ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามปริมาณการขนส่ง เช่น ค่าเช่าที่จอดรถ ค่าทะเบียนยานพาหนะ ค่าเสื่อมราคา เงินเดือนประจำ เป็นต้น และ ต้นทุนผันแปร (Variable cost) เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงตามปริมาณการบริการขนส่ง เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษารถ ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงกว่าร้อยละ 50 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ควบคุมยาก มีรายละเอียดเงื่อนไขมากมาย เช่น อัตราการใช้น้ำมัน ขึ้นอยู่กับการวิ่งระยะใกล้ไกล ช่วงความเร็วในการวิ่งรถ พฤติกรรมการขับรถ และสภาพปัจจัยภายนอก ฯลฯ ธุรกิจขนส่งจำเป็นต้องบริหารและวางแผนในส่วนนี้เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดและเพิ่มกำไรในการวิ่งรถในแต่ละเที่ยว การวางแผนต้นทุนขนส่งจึงเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและความชำนาญ ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการธุรกิจจึงต้องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อความรวดเร็วและทันต่อการทำงานในการแข่งขันในปัจจุบัน

เลือกใช้โลจิสติกส์แบบไหนดี

     จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทขนส่งในไทย เพื่อช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น วรินทรจึงได้แนะนำเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควรเลือกใช้ขนส่งที่ได้มาตรฐานและมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

     1. มีฟังก์ชันครอบคลุมทุกกระบวนการจัดส่ง ตั้งแต่การจัดการใบส่งสินค้า การเลือกเส้นทางที่ประหยัดที่สุด การใช้รถอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดตารางเดินรถ การจัดสินค้าขึ้นรถแต่ละคัน การจัดการด้านบัญชีและการเงิน และการจัดการด้านการซ่อมบำรุง ตลอดจนการเชื่อมต่อกับระบบติดตามยานพาหนะ เพื่อตรวจสอบและป้องกันความปลอดภัยในการขับขี่พร้อมตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถ

     2. สามารถทำงานบนสมาร์ทโฟน มีโมดูลสนับสนุนการทำงานในกิจกรรมการขนส่งต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เช่น Electronic Proof of Delivery (ePOD) ระบบติดตามงานขนส่ง, Cash Van & COD ระบบจัดการการขายบนหน่วยรถเคลื่อนที่, Maintenance Management System (MMS) ระบบจัดการงานซ่อมบำรุง และ My Queues (Smart Gate) ระบบจัดการคิวงานในพื้นที่รับ-ส่งสินค้า

     3. มีศูนย์กลางการติดต่อ (Connector) สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบติดตามการขนส่งจากบริษัทรับจ้างขนส่งอื่นๆ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประมวลผล สะดวก รวดเร็วได้ในแพลตฟอร์มเดียว

     “กว่า 10 ปีที่เราได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาพัฒนาใช้ในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ในรูปแบบ e-Logistics ในไทย เพื่อช่วยบริหารจัดการงานให้มีประสิทธิภาพ สะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย เราได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ในไทย 3 ข้อหลักๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว เราจึงพยายามพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการรถขนส่งสินค้าให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนได้ต่ำ ควบคู่กับการทำงานที่รวดเร็ว และมีข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจอย่างแม่นยำ เพราะสุดท้ายก็จะส่งผลดีย้อนกลับมายังเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นลูกค้าของบริษัทขนส่งเหล่านั้น โดยที่ผ่านมาเราสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของบริษัทขนส่งต่างๆ ลงได้ถึง 15% อนาคตต่อไปเราตั้งเป้าขยายการบริการไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกมากขึ้น เพื่อสร้างระบบบริหารจัดการงานขนส่งที่ดีที่สุด โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 100% ภายใน 2 ปีนี้” วรินทรกล่าวทิ้งท้าย

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย