7 นิสัยที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมีเหมือนกัน

TEXT: ภัทร เถื่อนศิริ

Main Idea

  • อยากรู้ไหมทำไมนักธุรกิจดังที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าในไทยหรือแม้แต่ระดับโลก แท้จริงแล้วมีนิสัยอะไรที่เหมือนๆ กัน ไปดูกันเลย

 

     วันก่อนผมได้มีการพูดคุยกันกับกลุ่มผู้บริหารหลากหลายบริษัทเกี่ยวกั นิสัยอะไรที่คนสำเร็จนั้นมีเหมือนกัน แล้วสรุปมาเป็น 7 ข้อที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับทุกท่าน เพื่อพัฒนาตัวเองฝึกฝนต่อไปครับ

1.เป็นคนช่างสังเกตและช่างสงสัย

     หลายคนให้คำจำกัดความถึง เจ้าหนูจำไม แต่สิ่งที่ผมจำได้กับเรื่องนี้ คุณสมบัติแรกของนักวิทยาศาสตร์ที่ผมเรียนตอนมัธยมต้น คือ “การช่างสังเกต” แต่การชั่งสังเกตอย่างเดียวคงไม่ได้ต้องสงสัยและหาคำตอบด้วย โดยคําว่าสงสัยที่ผมพูดถึงไม่ได้แค่สงสัยระดับธรรมดา แต่เขาจะสงสัยในระดับลึก ต้องการทราบต้นตอของสิ่งที่สงสัย หรือทราบเหตุผลที่มาของความคิดว่า “ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้”

2.ชอบสะสมชิ้นงานที่ดี / ที่น่าสนใจ

     ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าการที่เราจะเก่งและพัฒนาตัวเองต้องเสพงานที่ดีอื่นๆ เยอะๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ข้อมูลประกอบความคิดให้การพัฒนาผลงานของเรา ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีจดหมายขายเตาอบส่งมาที่บ้าน แล้วนักเขียนโฆษณาคนนั้นสั่งซื้อ เขาจะเอาจดหมายฉบับนั้นไปถ่ายเอกสารแล้วเก็บเข้าแฟ้ม เพราะนั้นเป็น Ads ที่ขายได้จริง หรือถ้าขับรถผ่านป้ายบิลบอร์ดเจ๋งๆ ที่ทำให้ไอเดียพุ่งกระฉูด เขาจะไม่ลังเลที่จะหยุดรถ แล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูปบิลบอร์ดน้ันไว้เพื่อเก็บเป็นไอเดียต่อยอดในอนาคต และนอกจากเก็บสะสมแล้ว ยังมีงานอดิเรกเป็นการ Edit โฆษณาที่สะสมไว้ด้วย สิ่งที่คนเหล่าน้ันทำคือ ถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรได้บ้างให้ Ads โฆษณาชิ้นนี้สร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น การทำแบบนี้จะทำให้เวลาเขียนงานจริง เรามีไอเดียไม่รู้จบเลยครับ [ฝึกฝนพัฒนาตัวเองจากงานที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไป ยิ่งฝึกมากยิ่งเก่ง] เพราะทุกอย่างไม่มีทางลัด ความสำเร็จที่เราเห็นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ข้างใต้ประกอบไปด้วยการฝึกฝนอย่างมากมาย

3.เข้าใจลูกค้าอย่างดี Audience-Centric Thinking

     นักการตลาดที่ประสบความสำเร็จจะจัดลำดับความสำคัญในการทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ และปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย พวกเขาดำเนินการวิจัยอย่างละเอียดเพื่อสร้างบุคลิกของลูกค้าและปรับแต่งข้อความให้เหมาะสม นิสัยนี้ช่วยให้แน่ใจว่าความพยายามทางการตลาดของพวกเขายึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำไปสู่อัตราการมีส่วนร่วมและการแปลงที่ดี เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าลูกค้าเราคือใครแล้ว เราก็จะไม่รู้ว่าเค้าชอบอะไร อะไรที่จะทำให้เค้าปฏิสัมพันธ์กับเรา แต่การที่จะทำการสื่อสารให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีนั้นสิ่งสำคัญคือความเข้าอกเข้าใจ และแตกตัวไปตามกลุ่มต่างๆอีกด้วย

4.ตั้งสมมติฐานและทดสอบเสมอ A/B Testing and Data Analysis

     หนึ่งในสิ่งที่นักการตลาดทุกคนเป็นเหมือนกันคือ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เมื่อเขามีสมมุติฐานเกิดข้ึนเขาจะคิดหาคําตอบ และทดสอบสิ่งที่เขาคิดเสมอ เขาจะไม่ฟันธงไปมั่วซั่ว ว่าสิ่งที่เขาคิดถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่เขาจะพูดคือ “อาจจะถูก ต้องทดสอบดูก่อน” เพราะคนเดียวที่จะตอบได้ ว่าการตลาดของคุณจะได้ผลหรือไม่ คือ ลูกค้า ลูกค้าจะบอกเองครับว่ากลยุทธ์ที่คุณทําอยู่มัน Work ไหม (ผ่านยอดขาย) Content ท่ีคุณเขียนมันขายได้หรือเปล่า ผู้เชี่ยวชาญที่ไหนก็ตอบไม่ได้ครับ

     นักการตลาดพัฒนานิสัยในการทดสอบกลยุทธ์ทางการตลาด โฆษณา และคัดลอกรูปแบบต่างๆ เพื่อพิจารณาว่าอะไรได้ผลดีที่สุด พวกเขาใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักและทำการตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูล นิสัยนี้ทำให้พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

5.ไม่เบื่อที่จะหาความรู้เพิ่ม Continuous Learning

     ความรู้ที่มักจะหาคือความรู้เกี่ยวกับการขาย กลยุทธ์การตลาด และความรู้ที่ทำให้เขาได้รู้จักลูกค้ามากขึ้น 3 ความรู้นี้เป็นความรู้หลักๆ ที่เขามักจะหา นอกจากนั้นก็จะเป็นความรู้ด้านกว้างครับ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าในอนาคตเราจะมีโอกาสได้เขียนโฆษณาให้กับธุรกิจประเภทไหน การมีความรู้ของกว้างๆ หรือว่าหลากหลายเอาไว้เนี่ยสำคัญมากๆ ครับ

     โดยที่ความรู้ด้านการตลาดเป็นแบบไดนามิก โดยมีแนวโน้ม เครื่องมือ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จมักจะติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ หลักสูตร การสัมมนาผ่านเว็บ และการประชุมต่างๆ เป็นประจำ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องนี้ช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงและรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน

6.มีสี่งที่เรียกว่า Sense of Humor

     ถ้าแปลให้เข้าใจง่ายๆ คือ มีเข้าใจความเป็นมนุษย์สูง มีพรสวรรค์ ในการคาดเดาว่า เมื่อพูดอะไรบางอย่างกับมนุษย์แล้ว มนุษย์ที่พูดด้วยจะตอบสนองอย่างไร ทำให้คาดเดาได้ว้ากลุ่มเป้าหมายนับแสนจะตอบรับ Ads โฆษณาอย่างไรบ้าง นักการตลาดจะเก่งเรื่องคนมากครับ และแน่นอนทุนคนก็ฝึกได้ครับ...ผมแนะนําให้เริ่มต้นจากการฝึกอ่าน Comments ของลูกค้า อ่าน Comments ที่อยู่ในโพสต์เพจอื่นของธุรกิจในกลุ่มเดียวกันกับของคุณ (คู่แข่งนั่นแหละ) รวมถึงคุยกับลูกค้าเยอะๆ คุณก็จะมี Sense of Humor เพิ่มขึ้นเอง เพราะ คนไทยนั้นเก่งที่จะ Comment มากครับ จนมีเพจจะฮาก็ตรงคอมเมนท์เกิดขึ้นมาเลย

7.Compelling Storytelling

     การเล่าเรื่องที่เป็นแนวทางสากลที่โดนใจผู้ชมทั่วโลก นักการตลาดที่มีประสิทธิภาพสร้างนิสัยในการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ชมในระดับอารมณ์ พวกเขาใช้การเล่าเรื่องเพื่อถ่ายทอดคุณค่าของแบรนด์ สร้างความไว้วางใจ และดึงดูดลูกค้า

     สุดท้ายนี้ผมเองก็เชิญชวนให้ทุกคนฝึกทั้ง 7 นิสัยนี้ครับ ถ้าทำได้มันจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณแน่นอนครับ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร