ไขข้อสงสัย เครดิตบูโรคืออะไร? ติดแบ็กลิสต์ มีผลต่อการกู้เงินแบงก์หรือไม่

TEXT : กองบรรณาธิการ

     เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะติด blacklist หรือ ติดเครดิตบูโร นั่นอาจทำให้เสียประวัติแล้วหลายคนยังมีความเชื่อว่าการติด blacklist จะทำให้ไม่สามารถไปกู้เงินกับแบงก์ได้

     จริงๆ แล้วเครดิตบูโรคืออะไร การติดเครดิตบูโรนั้นมีผลต่อการกู้เงินจริงหรือไม่

     วันนี้ SME Thailand Online ชวนไปไขข้อสงสัยกัน

                                                                   

เครดิตบูโร คือ อะไร

     “เครดิตบูโร” คือ องค์กรหนึ่งที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อจะรวมข้อมูลคนเป็นหนี้ ใครไปเป็นหนี้แบงก์ ใครไปเป็นหนี้นอนแบงก์ จะมีองค์กรนี้เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลคนเป็นหนี้ ถ้าเปรียบเทียบ คือ “สมุดพกของคนเป็นหนี้” เหมือนว่าเราไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยนั้นหรือที่โรงเรียนนั้น แล้วมีสมุดพกเพื่อรวบรวมว่าคนนี้มีผลการเรียนเป็นอย่างไร เหมือนกับว่า คนนี้มีหนี้ที่ไหนบ้าง แล้วปฏิบัติหนี้แต่ละก้อน แต่ละที่อย่างไร องค์กรนี้ในต่างประเทศและในประเทศไทย เรียกว่า “เครดิตบูโร”

เครดิตบูโร กับความเข้าใจผิดที่มักจะได้ยินบ่อยๆ

     สาเหตุที่สถาบันการเงินไม่ให้สินเชื่อ เพราะเครดิตบูโรขึ้น “บัญชีดำ” หรือที่เรียกกันว่า “ติดแบล็กลิสต์” ความจริงแล้วเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะ เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) จะมีหน้าที่ในการจัดเก็บ รวมรวบข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้สินเชื่อ โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีหน้าที่รายงานและส่งข้อมูลให้แก่เครดิตบูโรเป็นรายเดือนทุกเดือน

     ทั้งนี้ NCB ได้เผยเผยแพร่บทความไว้ในเว็บไซต์เรื่อง “จริงไหม…ที่เขาบอกว่าเรา “ติดแบล็กลิสต์” ? เลยกู้สินเชื่อไม่ผ่านสักที แม้ว่าจะปิดหนี้ไปนานแสนนานแล้วก็ตาม

     เรื่องนี้ “ไม่เป็นความจริง” การเก็บข้อมูลของเครดิตบูโร ไม่ได้มีการทำเป็นแบล็กลิสต์ หรือบัญชีดำในฐานข้อมูลแต่อย่างใด

     สิ่งที่เครดิตบูโรจัดเก็บ คือข้อมูลการชำระหนี้ตามความเป็นจริง โดยมีสถานะกำกับไว้ ว่ามีการชำระปกติ หรือค้างชำระมาแล้วกี่วัน ยกตัวอย่าง

  • กรณีที่ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ ไม่ค้างชำระ รายงานจะแสดงสถานะว่าเป็น “ปกติ”

 

  • กรณีที่มีการผิดนัดชำระ รายงานจะแสดงสถานะ “ค้างชำระ” ในระบบข้อมูลของเครดิตบูโร

 

     รายงานข้อมูลเครดิตเป็นการรายงานประวัติการชำระสินเชื่อตามข้อเท็จจริง แต่ไม่มีการรายงานว่าลูกหนี้คนใดติดแบล็กลิสต์ และเครดิตบูโรไม่มีสิทธิที่จะอนุมัติ หรือร่วมตัดสินใจให้สินเชื่อกับใคร

เก็บข้อมูล 3 ปี

     สำหรับ “รายงานข้อมูลเครดิต” คือ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ โดยจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) และจะปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิต เมื่อมีผู้ขอเรียกดู

     โดยเครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลย้อนหลังไม่เกิน 3 ปีตามที่กฎหมายกำหนด หากชำระหนี้เก่าที่ค้างครบแล้ว หรือปิดหนี้แล้ว และไม่ได้มีการค้างชำระอีก ผ่านไป 3 ปี (36 เดือน) ประวัติค้างชำระก็จะหายไป

ข้อมูลในเครดิตบูโร ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก

     1) ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนเจ้าของบัญชี เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขที่บัตรประชาชน และกรณีที่เป็นนิติบุคคล จะเป็น ชื่อ สถานที่ตั้ง เลขที่ทะเบียนนิติบุคคล เป็นต้น

     2) ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติการชำระราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต รวมทั้งสถานะบัญชี ว่ามีการชำระตรงเวลาตามปกติหรือไม่ หากมีสินเชื่อหลายบัญชี หรือมีบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ รายงานก็จะมีหลายหน้ามากขึ้น แยกตามแต่ละบัญชีสินเชื่อ

ทำไมผู้กู้ให้ข้อมูลครบหมดแล้ว ประวัติหนี้เสียก็ไม่มี แต่ยังขอสินเชื่อไม่ผ่าน?

     หลายคนอาจสงสัยมีคำถามว่า ไม่มีประวัติหนี้เสียแต่ก็ยังกูไม่ผ่าน ในเว็บไซต์ NCB ได้ชี้แจงเรื่องถึงสาเหตุที่สถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อ อาจเป็นไปได้หลายอย่าง ได้แก่

  • นโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบการแต่ละแห่งแตกต่างกัน

 

  • ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาของลูกหนี้

 

  • โอกาสในการผิดนัดชำระหนี้มากหรือน้อย

 

  • ภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ

 

  • หลักประกันความเสี่ยง เช่น หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกัน

 

วิธีแก้ไขถ้าธนาคารปฏิเสธให้สินเชื่อเพราะติดเครดิตบูโร

     ในกรณีถ้าผู้ประกอบการไม่สามารถกู้เงิน หรือถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินให้เหตุผลว่า เป็นเพราะข้อมูลในเครดิตบูโรหรือเกี่ยวข้องกับเครดิตบูโร ธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องออกหนังสือชี้แจงเหตุผลที่ไม่ให้กู้หรือปฏิเสธให้สินเชื่อโดยชัดเจนว่า ไม่ให้กู้เพราะข้อมูลของท่านในเครดิตบูโรเป็นอย่างไร เช่น มีข้อมูลแสดงว่ามีประวัติค้างชำระ มีหนี้หรือวงเงินสินเชื่อมากเกินไป เป็นต้น

     จากนั้นผู้ประกอบการสามารถนำหนังสือชี้แจงดังกล่าว พร้อมกับบัตรประชาชนตัวจริง มายื่นขอตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตบูโรได้ฟรี ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

ที่มา : https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/national-credit-bureau-infographic/blacklist-truth/

https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/national-credit-bureau-infographic/blacklist-truth/

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย