เหตุที่กลยุทธ์ “ปากต่อปาก” เวิร์กในเอเชีย



เรื่อง กองบรรณาธิการ


    สงสัยไหมว่าทำไมเวลาเสพข้อมูลไม่ว่าจะทางใด คนส่วนใหญ่มักพร้อมจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และเชื่อใน word-of-mouth หรือการสื่อสารระหว่างผู้บริโภคที่บอกกันแบบปากต่อปากผลการวิจัยชิ้นหนึ่งระบุคนเอเชียเชื่อข้อมูลที่ได้ยินได้ฟังมากกว่าผู้บริโภคในภูมิภาคอื่นของโลก โดยเฉพาะข้อมูลที่มาจากการแนะนำส่วนบุคคล การรีวิวทางอินเตอร์เน็ต และผ่านบทความต่าง ๆ เหตุเพราะอะไร ดูกันเป็นข้อ ๆ

 
•    วัฒนธรรม พื้นฐานคนเอเชียเน้นการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสในครอบครัวไปจนถึงข้าราชการและผู้บริหารแวดวงธุรกิจ พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นในสังคมจีนและญี่ปุ่นเช่นกัน การวิพากษ์วิจารณ์ผู้ใหญ่จึงเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครอยากทำ     รูปแบบการเคารพนับถือเช่นนี้สะท้อนความไว้เนื้อเชื่อใจระดับสูงของชาวเอเชียต่อสื่อหรือข้อมูลที่ส่งผ่านเว็บไซต์ของสปอนเซอร์และแบรนด์ต่าง ๆ 


•    การควบคุมสื่อ จะว่าไปรัฐบาลทั่วภูมิภาคเอเชียควบคุมสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุหรือโทรทัศน์ชนิดที่เข้มข้นกว่าทางฝั่งตะวันตก ทำให้ประชาชนและผู้บริโภคหันหาโซเชียลมีเดียเพื่อเสพข้อมูลและข่าวสาร พร้อมกับนำเสนอประสบการณ์และมุมมองของตัวเองผ่านสื่อที่ควบคุมยากอย่างอินเตอร์เน็ต


•    สภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่จำนวนชนชั้นกลางในเอเชียนั้นกระจายอยู่ทั่วแต่การรับรู้หรือความคุ้นเคยต่อแบรนด์กลับยังต่ำอยู่เมื่ออิงจากสภาพเศรษฐกิจ เป็นเพราะผู้บริโภคจำนวนมากยังไม่ใช่นักช้อปตัวยง เมื่อจะซื้อสินค้าแพง ๆ ด้วยความระมัดระวังจึงมักปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากคนที่พวกเขาเชื่อถือแบบตัวต่อตัว


•    ทำเลที่ตั้ง คงต้องยอมรับว่าสังคมส่วนใหญ่ของเอเชียยังเป็นสังคมชนบท  ผู้คนยังปฏิสัมพันธ์และพบเจอกันซึ่ง ๆ หน้าเวลาซื้อของหรือทำธุรกิจ แต่ก็จะมีสายสัมพันธ์ระหว่างร้านค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การแพร่ขายของอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่รุกไปยังชาวภูธร จะทำให้ความสัมพันธ์โน้มเอียงไปทางออนไลน์มากขึ้น 

    ท้ายที่สุดเมื่อปัจจัยต่าง ๆ อาทิ อินเตอร์เน็ต โซเชี่ยลมีเดีย ผู้บริโภคที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน และการเป็นสังคมเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนให้มีความรับผิดชอบและความโปร่งใสมากขึ้น (โดยเฉพาะในสังคมจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย) ก็เป็นที่น่าสนใจว่าการเชื่อกันแบบปากต่อปากของชาวเอเชียจะขยายขอบเขตไปได้ไกลแค่ไหน

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”