ผึ้งแตกรัง...บทเรียนราคาแพงที่ผู้ประกอบการต้องระวัง

 



เรื่อง วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    อเมริกาอาจได้ชื่อเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพและการแสดงออก แต่กับประเด็นหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาคือการเหยียดสีผิวและชาติพันธุ์ ความอคติและขาดไร้ซึ่งวุฒิภาวะทางอารมณ์กลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ผู้ประกอบการคนหนึ่งถึงกับถูกสั่งปิดร้าน หมดทางทำมาหากินไปเลย 


    เหตุเพิ่งเกิดที่เมืองไซออน รัฐอิลลินอยส์ เดเนร่า ฟอร์ด คุณแม่ลูกสองวัย 21 ปีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาพาลูกเล็ก 2 คนแวะไปซื้ออาหารที่ร้านแดรี่ ควีน แฟรนไชส์ร้านไอศกรีมชื่อดัง (ที่ต่างประเทศจะมีเมนู เช่น ฮ็อทด็อก ไก่ทอด เฟรนช์ฟราย และเบอร์เกอร์จำหน่ายด้วย) พอรับอาหารมา พบว่าออร์เดอร์ผิด และได้ของไม่ครบจึงร้องเรียนเพื่อขอเงินคืน กลับเจอเจ้าของร้าน เจมส์ คริชตัน ผู้ซื้อแฟรนไชส์แดรี่ ควีนที่เกิดอาการของขึ้น ด่าว่าฟอร์ดอย่างสาดเสียเทเสีย ประเด็นอยู่ตรงที่ ในคำก่นด่านั้นมี N-word อยู่ด้วยหลายคำ หลายครั้ง


    ก็ทำเอาลูกค้าตะลึงงึงงันเพราะไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ อัน N-wordที่ว่านี้ย่อมาจาก nigga หรือ nigger แปลเป็นไทยก็ประมาณ “ไอ้มืด” ถือเป็นคำเหยียดคนผิวสี เป็นคำที่คนขาวเรียกคนดำเชิงดูถูกเหยียดหยาม ถ้าคนผิวสีเรียกกันเองจะเป็นการหยอกล้อ แต่ถ้าคนอื่นมาเรียกจะเป็นคำที่แรงมาก ไปเรียกสุ่มสี่สุ่มห้าอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันได้ 


    ย้อนกลับมายังเหตุการณ์ที่ร้าน เมื่อถูกเหยียดหยามขนาดนั้น แถมเจ้าของร้านยังโยนเงินใส่หน้าคืนให้แค่ 5 เหรียญพร้อมกับทำท่าถ่ายรูปเธอขู่ว่าจะประจานบนเฟสบุ๊ก คุณแม่ลูกสองจึงโทรแจ้ง 911 ตำรวจรุดมาอย่างว่อง พบเจ้าของร้านกำลังอยู่ในอาการหัวร้อน และยอมรับอย่างไม่แคร์ว่า ใช่ เขาเรียกลูกค้ารายนี้ว่าไอ้มืดเพราะเบื่อหน่ายกับพวกผิวดำทั้งหลาย พร้อมกันนั้นก็ท้าทาย ถ้าจะจับเข้าคุกก็ไม่กลัว แต่เขาจะใช้ N-word มีอะไรมั๊ย สรุป ตำรวจต้องล่าถอยไปเพราะสิ่งที่เจ้าของร้านทำแม้เป็นเรื่องไม่ถูกไม่ควรแต่ในทางกฏหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาผิดได้


    เรื่องไม่จบแค่นั้น คุณแม่ลูกสองร้องเรียนไปยังแดรี่ ควีนสำนักงานใหญ่ในเมืองมินนีอาโพลีส รัฐมินนิโซตา พร้อมกับเขียนเล่าเรื่องราวลงเฟสบุ๊ก ไม่ถึงวันโพสต์ถูกแชร์ไปนับพัน ก่อให้เกิดกระแส buzz ปรากฎการณ์ผึ้งแตกรังหรือการบอกต่อในโลกโซเชี่ยล ถึงขั้นมีกลุ่มคนผิวสีมารวมตัวประท้วงหน้าร้าน


   ด้านแดรี่ ควีนสำนักงานใหญ่เองก็เทกแอคชั่นอย่างรวดเร็ว เมื่อตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ก็สั่งถอนแฟรนไชส์ทันที ถึงเวลานั้น เจ้าของร้านเพิ่งสำนึกและออกแถลงการณ์ขอโทษ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ร้านถูกสั่งปิดไปเรียบร้อย ถือเป็นบทเรียนราคาแพง มีเงินซื้อแฟรนไชส์อย่างเดียวไม่พอ วุฒิภาวะทางอารมณ์ต้องพร้อม ต้องลดอคติ ที่สำคัญต้องเรียนรู้การรับมือกับคำร้องเรียนให้ถูกต้องด้วย  

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”