​เบื้องหลัง “อเมซอน” รุกธุรกิจลอจิสติกส์

TEXT : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์




    สร้างความฮือฮาในวงการลอจิสติกส์ไม่น้อยเมื่อ “อเมซอน”  ร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยแผนเตรียมเข้าสู่ธุรกิจผู้ให้บริการด้านการขนส่งและลอจิสติกส์ โดยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมการสื่อสารระหว่างคนขับรถบรรทุกส่งของกับลูกค้า แอพฯที่ว่านี้ออกมาในรูปบริการแบบอูเบอร์ ซึ่งเป็นแอพฯเรียกแท็กซี่แต่นี่จะเป็นแอพฯเรียกรถบรรทุกส่งของ เป็นแอพฯที่รวมการปฏิบัติการแบบครบวงจรคือแสดงราคาค่าบริการแบบเรียลไทม์ แสดงเส้นทางการขนส่ง และจุดจอดรถบรรทุก หากลูกค้าดาวน์โหลดแอพฯมาไว้บนสมาร์ทโฟนจะสามารถเรียกใช้บริการรถบรรทุกส่งของโดยไม่ต้องผ่านคนกลางที่ทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 15% ของค่าบริการต่อครั้ง

    ข้อมูลระบุ 70% ของการขนส่งสินค้าทั่วโลกจะใช้รถบรรทุก ระบบขนส่งด้วยรถบรรทุกนี้มีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 800,000 ล้านเหรียญ จึงทำให้ธุรกิจนี้น่าสนใจ และอเมซอนก็ได้เตรียมการโดยทยอยซื้อรถบรรทุกมาสะสมไว้ระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมา อเมซอนประสบความสำเร็จจากบริการแบบ B2C เนื่องจากกว่าครึ่งของยอดขายสินค้าออนไลน์มาจากลูกค้าทั่วไป ทำให้อเมซอนได้มีโอกาสบ่มเพาะความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับลูกค้ามาพอสมควร 

    สำหรับการรุกเข้าสู่ธุรกิจลอจิสติกส์นี้เป็นส่วนหนึ่งของอเมซอนที่ต้องการสร้างระบบส่งสินค้าด้วยตัวเอง การควบคุมระบบเองจะทำให้ส่งสินค้าได้เร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น ที่สำคัญทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัทอื่นส่งสินค้าให้ปีละ 1,100 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ทั้งนี้ อเมซอนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทดอยช์ โพสต์ เจ้าของ DHL ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าสัญชาติเยอรมัน การทำระบบลอจิสติกส์เองยังทำให้อเมซอนสามารถต่อยอดไปใช้กลยุทธ์กับลูกค้าอี-คอมเมิร์ซ  เช่น บริการส่งสินค้าฟรีสำหรับลูกค้า Amazon Prime เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกมากขึ้น

    นอกจากให้บริการลูกค้าแบบ B2C เป้าหมายของอเมซอนคือการเป็นบริษัทลอจิสต์เต็มรูปแบบที่มีทั้งบริการส่งสินค้าทางบก ทางเรือ และทางอากาศเพื่อเจาะ B2B ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยลดความเสี่ยง เนื่องจากธุรกิจหลักของอเมซอนคือการค้าปลีกออนไลน์ซึ่งยากจะคาดเดาแนวโน้ม การผันมาทำลอจิสติกส์จึงเป็นการสร้างธุรกิจใหม่รองรับกรณีที่ธุรกิจในเครือเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเสียหาย หลังจากซุ่มวางระบบไว้อย่างดี อเมซอนมีกำหนดเปิดตัวธุรกิจใหม่ในกลางปีนี้ เชื่อว่า บริษัทลอจิสต์รายใหญ่ ๆ อย่าง DHL UPS หรือ FedEx คงอยู่นิ่งไม่ได้

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะอินไซด์ Beauty Business ไทย สงครามความงาม 7.5 หมื่นล้าน ใครจะครองบัลลังก์?

ธุรกิจความงามไม่ใช่แค่ “ความสวย” แต่คือ สนามรบแห่งกำไรและการเอาตัวรอด ตลาดหมื่นล้าน แต่ NPM ต่ำสุดในรอบ 10 ปี การแข่งขันดุเดือด ที่น่าสนใจคือ…ในสนามนี้ใครจะครองอยู่หรือใครจะไป?

SME ต้องรู้!  เคล็ดลับทำให้ “แบรนด์ใหญ่อยาก Collab ด้วย

ทุกวันนี้ Collaboration หรือการจับมือกับแบรนด์อื่น ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือ ทางลัด ที่ทำให้แบรนด์เล็กก้าวสู่สปอตไลต์ได้ในชั่วข้ามคืน แล้วแบรนด์เล็กจะทำอย่างไรให้แบรนด์ใหญ่หันมามองและยอม Collab ด้วย?