10 ทิศทางเติบโตพัฒนาค้าปลีก-ส่ง

 

 
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้ให้ภาพทิศทางการเติบโตและแนวทางการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งไทยปี 2556 ไว้ 10 ประการ ประกอบด้วย 
 
1.ธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด จากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ (มีการเติบโตร้อยละ 18 ของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสินค้า) 
 
2.สินค้าประเภทออแกนิค สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม จะได้รับความสนใจและเติบโตต่อเนื่อง 
 
3.สินค้าคุณภาพดี ราคาสูง จะได้รับความสนใจเนื่องจากผู้บริโภคคนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นและต้องการของที่มีคุณภาพมากขึ้น 
 
4.ธุรกิจค้าปลีกประเภทไฮเปอร์มาร์เกต จะเน้นการทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายผ่านรอยัลตี้โปรแกรม 
 
5.ร้านค้าปลีกประเภทสุขภาพและความงามจะเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้านขายยารายย่อยต้องปรับตัวหันมารวมเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ 
 
6.ธุรกิจค้าปลีกประเภทตลาดสด จะมีการเติบโตลดลง โดยเปลี่ยนเป็นรูปแบบตลาดนัดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
 
7.ร้านค้าปลีกประเภทอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัว 
 
8.โอกาสที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะเติบโตจะต้องมุ่งทำตลาดเฉพาะ (Niche) มากขึ้น 
 
9.On line marketing และเทคโนโลยีใหม่ๆ จะถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว 
 
10.เทคโนโลยี Omni Channel จะได้รับการพัฒนาเพื่อรวบรวมช่องทางที่หลากหลาย Multichannel ให้เป็นหนึ่งเดียวโดยไร้รอยต่อของการปฏิสัมพันธ์ ไม่ว่าจะจับจ่ายใน store หรือ จับจ่ายผ่าน smart phone ข้อมูลธุรกรรมของลูกค้าจะถูกบูรณการในฐานข้อมูลและนำไปสู่การวิเคราะห์พฤติกรรมได้อย่างสมบูรณ์
 

RECCOMMEND: MARKETING

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”  

โอกาสชาไทย สู่เวทีโลก ในวิกฤต matcha ขาดตลาด

กระแสมัทฉะพุ่งแรงตั้งแต่ปี 2568 ขณะที่ปริมาณผลผลิตลดลงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกิดภาวะของขาดตลาดในหลายภูมิภาค สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือโอกาสทอง