กรมพัฒน์ฯ จับมือ e-Marketplace ผลักดันผู้ประกอบการชุมชน ลุยตลาดออนไลน์

 

 
     กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ผลักดันผู้ประกอบการชุมชนเข้าสู่ช่องทางการค้าออนไลน์ เปิด 3 แนวทางส่งเสริมร้านค้าใช้ e-Commerce กระตุ้นยอดขาย/ขยายกิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืน  หวังผลักดันยอดขายผ่าน e-Commerce เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ภายใน 5 ปี โดยคาดว่าปี 2564 มูลค่า e-Commerce ไทย แตะ 5 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งค้าขายออนไลน์อาเซียน
 

     นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) และผู้ประกอบการ e-Commerce รายใหญ่ ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางสร้างความร่วมมือในการพัฒนา e-Commerce ซึ่งถือเป็นช่องทางการตลาดที่มีต้นทุนไม่สูงมาก เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสามารถค้าขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 

     เบื้องต้น ที่ประชุมเห็นพ้องให้ดำเนินการขับเคลื่อนผู้ประกอบการชุมชนในการใช้ช่องทาง e-Commerce เพื่อทำการตลาดและกระจายสินค้า 3 แนวทาง ประกอบด้วย (1) การพัฒนาผู้ประกอบการให้มีองค์ความรู้ผ่านการจัดอบรม โดยการนำจุดเด่นของสินค้าซึ่งผู้ประกอบการมีอยู่แล้วมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเพื่อดึงดูดความสนใจ (Content Marketing) ของผู้บริโภค และสามารถใช้ช่องทาง e-Marketplace ในการขยายช่องทางการตลาด โดยในปี 2561 กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนเข้าสู่ช่องทาง e-Commerce อย่างน้อย 10,000 ราย และสร้างยอดขายได้มากกว่า 500 ล้านบาท
 

     (2) สร้างบรรยากาศการซื้อขายผ่าน e-Commerce ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์ตระหนักถึงการมีตัวตนและความน่าเชื่อถือของร้านค้า ผ่านการขอรับเครื่องหมายรับรอง DBD Registered หรือ DBD Verified จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในการซื้อขายออนไลน์ก่อให้ธุรกิจเกิดความเติบโตอย่างยั่งยืน และ (3) การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าออนไลน์ (e-Commerce Booster) อาทิ การจัดงาน Thailand Online Mega Sale, e-Commerce Festival และ Offline 2 Online Expo ซึ่งงานฯ ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายของผู้ประกอบการ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดออนไลน์ โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 100 ล้านบาท

 
     นอกจากนี้ หัวใจสำคัญของแนวทางการขับเคลื่อนครั้งนี้ คือ การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายและการพัฒนาให้ตรงจุดอย่างยั่งยืน ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะร่วมมือกันกำหนดคุณสมบัติพื้นฐานในการประกอบธุรกิจ e-Commerce อย่างยั่งยืน (e-Commerce Entrepreneur Standardize) รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการส่งเสริมผู้ประกอบการซึ่งจะเน้นเรื่องการเขียนเรื่องราวให้กับผู้ประกอบการ (Story Telling) รวมถึงการปรับรูปแบบการสอนให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ Smart Phone ในการเปิดร้านค้าและการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ (M-Commerce) ได้
 

     อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมฯ คาดหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้อย่างไร้กังวล รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์เห็นถึงความสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ โดยการขอรับเครื่องหมาย DBD Registered จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามากขึ้น ใช้ e-Commerce เป็นช่องทางการขยายตลาดไปสู่สากลและสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าผลักดันยอดขายผ่าน e-Commerce ให้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ภายใน 5 ปี โดยคาดว่าปี 2564 e-Commerce ไทย จะมีมูลค่าแตะ 5 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งค้าขายออนไลน์อาเซียน


 ​www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”  

โอกาสชาไทย สู่เวทีโลก ในวิกฤต matcha ขาดตลาด

กระแสมัทฉะพุ่งแรงตั้งแต่ปี 2568 ขณะที่ปริมาณผลผลิตลดลงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกิดภาวะของขาดตลาดในหลายภูมิภาค สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือโอกาสทอง