​เปิดสูตร 6 C เคล็ดลับดันธุรกิจโต!





 

     ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ต่างๆ และคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นมากมาย ในการทำธุรกิจ ถ้าไม่ขยายก็เท่ากับตาย เพราะการนิ่งอยู่กับที่ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องสูญเสียไป ก็คือลูกค้า ซึ่งนับเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการทำธุรกิจ แต่จะขยายยังไงให้รอดได้อย่างแข็งแกร่ง มาดูเคล็ดลับการใช้ 6 C การตลาดดีๆ จาก ณธน โชติหิรัญรัตน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะ มันท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่จะช่วยดันธุรกิจของ SME ให้โตกัน
 

1. C – Creativity คิดสร้างสรรค์จากเดิม

     อย่างแรกเลยที่ต้องมีก็คือ ไอเดีย การขยายธุรกิจไม่ใช่การเริ่มธุรกิจใหม่เพราะเป็นการขยายจากสิ่งที่มีอยู่เดิม ซึ่งผู้ประกอบการต้องพิจารณาถึงเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นการผลิต บุคลากรหรือเวลาที่มีอยู่นั้นว่าจะทำการขยายยังไง แล้วนำไอเดียที่คิดได้นั้นมาดูว่ามีความแตกต่างจากตลาดไหม มีจุดเด่นยังไง ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หรือไม่
 

2. C – Client ลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย

     ลูกค้า ไม่เท่ากับ กลุ่มเป้าหมาย หมายความว่า กลุ่มเป้าหมายคือคนที่เราอยากจะเสนอขายสินค้าและบริการให้เขา แต่ลูกค้าคือคนที่จ่ายเงินซึ่งเงินของเขาเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของเราแล้ว ดังนั้นในการขยายธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีลูกค้าก่อน เพื่อที่ผู้ประกอบการทั้งหลายจะสามารถบริหารความเสี่ยงต่างๆได้ แน่นอนว่าถ้าเราคิดสินค้าหรือบริการออกมาแล้วมีคนซื้อเลยทันทีย่อมเป็นเรื่องที่ดี
 

3. C – Communication สื่อสารอะไร ทางไหน และ อย่างไร

     หลังจากที่มีไอเดียและคนซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องทำให้กลุ่มลูกค้าขยายตัวได้เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นลูกค้าใหม่ ลูกค้าเก่าหรือแม้กระทั่งลูกค้าของคู่แข่งที่ต้องเอามาเป็นลูกค้าของเราให้ได้ ซึ่งการที่จะทำได้ก็ต้องอาศัยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไปยังผู้บริโภคกลุ่มนั้น โดยต้องมีความชัดเจนว่าจะสื่อสารอะไร ยังไงหรือทางไหน แม้ทุกวันนี้ออนไลน์จะถือเป็นเครื่องมือหลักในการทำตลาด แต่หลายธุรกิจก็ต้องใช้ออนไลน์ผสมผสานกับช่องทางอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการตลาดแบบออฟไลน์ มีหน้าร้านหรือใช้บุคลากรอย่างทีมเซลล์
 

4. C – Cost ต้นทุน: เงิน เวลา ความสามารถ บุคลากร

     อีกปัจจัยที่สำคัญในการขยายธุรกิจคือ ต้นทุน นอกเหนือจากเรื่องเงินแล้ว เวลา ความสามารถและบุคลากรก็ถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ประกอบการต้องพิจารณาว่าหากมีเงินแล้วจะจ้าง Outsource 100 เปอร์เซ็นต์ที่นับว่ามีค่าใช้จ่ายมาก หรือจะดำเนินการเองแบบ In house ที่ใช้พนักงานประจำทั้งหมดแต่ก็มีความเสี่ยงมหาศาล จะเลือกแบบไหนนั้นต้องคำนึงถึงต้นทุนที่มีอยู่ว่าจะสามารถขยายไปได้แค่ไหน บางทีอาจจะไม่ต้องก้าวไวมากแต่ขอให้ก้าวแบบมั่นคงและมีความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
 

5. C – Connection ที่ดี = ต้องพร้อมช่วย

     ในการขยับขยายธุรกิจและก้าวเดินไปข้างหน้า แน่นอนว่าเรื่องของคอนเน็กชันเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการมีคอนเน็กชันที่ดีนั้นไม่ได้หมายความว่าต้องมีคนที่รู้จักมากมายแต่ต้องพร้อมช่วยและพร้อมให้คำแนะนำต่างหาก ดังนั้นผู้ประกอบต้องทำการคัดกรองคอนเน็กชันที่มีว่าเป็นยังไง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะสูญเสียเวลาและสูญเสียโอกาสมากมาย อีกทั้งต้องรู้จักหาคอนเน็กชันเพิ่มเติมเพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้มากขึ้นด้วย
 

6. C – Commentator ความคิดเห็น / ประสบการณ์

     การรับฟังความคิดเห็นหรือฟีดแบคจากคนรอบข้างเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม แม้คนส่วนมากจะบอกว่าความคิดหรือไอเดียที่เรามีนั้นเป็นไปไม่ได้หรือทำไม่ได้ แต่ตัวของผู้ประกอบการเองต้องมีการแยกแยะว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นบอกนั้นเป็นความคิดเห็น ประสบการณ์ตรงที่เขาเคยเจอมาหรือเป็นการไปฟังคนอื่นแล้วเอามาพูดอีกที แล้วนำมาวิเคราะห์อย่างรอบคอบว่าจุดไหนที่เราสามารถนำมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำธุรกิจได้    



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”