โลกของผักไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนบก Sea Vegetables เทรนด์อาหารแห่งอนาคต ทั้งดีต่อร่างกายและใส่ใจโลก

TEXT : กองบรรณาธิการ





     โลกของ “ผัก” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พืชผักที่ปลูกกันบนบกเท่านั้น เพราะ “ผักจากทะเล” ที่คนอาจเหมารวมเรียกว่า สาหร่ายทะเล ไม่ว่าจะเป็นโนริสาหร่าย สาหร่ายสีแดง สาหร่ายเกลียวทอง วากาเมะ หรือ Dulse ที่มีลักษณะคล้ายผักกาดหอมใบสีแดง กำลังเป็นเทรนด์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมากกว่าอีก ถึงขนาดที่สื่อใหญ่อย่าง The Independent ยกให้สาหร่ายทะเลเป็นเทรนด์อาหารอันดับ 1 ในปี 2564 นี้เลยทีเดียว

 


เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า
               

     เรามองพืชผักในแง่ดีมาตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมการเกษตรต้องใช้พลังงานและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปไม่น้อย ถ้าเทียบกับผักจากทะเลที่สามารถเติบโตได้ในท้องทะเลจะมีคาร์บอนฟุตพรินต์น้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เหลือทิ้งน้อยกว่าด้วย
               

     จากการศึกษาล่าสุด ยังพบว่าหากใส่สาหร่ายทะเลสีแดงลงไปผสมในอาหารวัวจะสามารถลดอาการท้องอืดและลดการผลิตก๊าซมีเทนของวัวได้ถึง 98 เปอร์เซ็นต์

 


มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า
               

     รู้ไหมว่าหากเทียบในปริมาณเท่ากันแล้ว สาหร่ายทะเลมีสารอาหารมากกว่าอาหารใดๆ บนโลกใบนี้ ผักจากทะเลเต็มไปด้วยโปรตีน ไอโอดีน ไฟเบอร์ และวิตามิน A,B,C และ E ในปริมาณที่มากกว่าผักบนบกตั้งแต่ 10 ถึง 20 เท่า ผักทะเลบางชนิดมีแคลเซียมมากกว่านม และ Sea lettuce หรือผักกาดทะเลมีธาตุเหล็กถึง 25 เท่าของที่พบในเนื้อวัว
               

     สาหร่ายทะเลอบแห้งมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการประมาณ 7-38 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โซเดียม ซึ่งพบในผักบกได้น้อยลงทุกที เพราะยิ่งทำการเกษตรในพื้นที่เดิมนานแค่ไหน แร่ธาตุในดินก็ยิ่งลดลง
               

     นอกจากนี้ ผักจากทะเลจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และมีประโยชน์ในการต้านอาการอักเสบอีกด้วย



 

เป็นอาหารอินเทรนด์
               

     อุตสาหกรรมการผลิตและเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากเดิมที่ผลิต 10.6 ล้านตันในปี 2543 ขึ้นมาเป็น 32.4 ล้านตันในปี 2561 (ข้อมูลจาก FAO)
               

     มีหลายธุรกิจที่นำสาหร่ายมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น Blue Evolution ที่ขายป๊อบคอร์นรสสาหร่ายทะเล และพาสต้าสาหร่ายทะเล หรือร้านระดับมิชลินสตาร์ อย่าง Loam ในสหราชอาณาจักร ที่เจ้าของร้านสนุกสนานกับการทดลองเมนูจากผักทะเล เช่นเดียวกับที่ร้าน ÁngelLeón ในสเปนก็ชอบสืบเสาะหาผักจากทะเลมารังสรรค์เป็นเมนูในร้าน



 

รสชาติอร่อย
               

     ผักจากทะเลมีรสชาติแปลกใหม่ สามารถรับประทานดิบในสลัด ปรุงสุก หรือแม้แต่จะใส่ลงไปในเครื่องดื่มสมูทตี้ก็ยังได้ สาหร่ายทะเลโดยทั่วไปมักมีรสชาติเหมือนผักใบเขียวที่ปรุงสุกแล้ว แต่จัดจ้านกว่า เช่น หน่อไม้ฝรั่งทะเลที่เค็มกว่าหน่อไม้ฝรั่งบก ได้รสและกลิ่นหอมของชายฝั่งทะเลระหว่างลิ้มรสด้วย
 




ผักทะเลเติบโตง่าย ขยายง่าย
               

      เป็นเพราะโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจหาซื้อและกินอาหารในท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งการเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำมีกระบวนการผลิตง่ายกว่าการเพาะปลูกผักจากดินที่ต้องหาพื้นที่ เตรียมดิน และเลี้ยงกว่าจะโต ผักทะเลไม่ต้องการน้ำจืด และเติบโตได้อย่างรวดเร็วโดยต้องการแค่แสงแดด เกลือ และแร่ธาตุเท่านั้น
               

      ทีมนักวิจัย Harbor Branch Oceanographic Institute แห่ง Florida Atlantic University ได้ทดลองปลูกหน่อไม้ฝรั่งทะเลโดยใช้เพียงน้ำเกลือและขี้ปลาเป็นปุ๋ย สามารถผลิตได้ 100 ปอนด์ใน 10 สัปดาห์ และมีอัตราการอยู่รอดสูงกว่าการเพาะปลูกพืชบนบกมากทีเดียว
               

อ้างอิง : Forbes

 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะอินไซด์ Beauty Business ไทย สงครามความงาม 7.5 หมื่นล้าน ใครจะครองบัลลังก์?

ธุรกิจความงามไม่ใช่แค่ “ความสวย” แต่คือ สนามรบแห่งกำไรและการเอาตัวรอด ตลาดหมื่นล้าน แต่ NPM ต่ำสุดในรอบ 10 ปี การแข่งขันดุเดือด ที่น่าสนใจคือ…ในสนามนี้ใครจะครองอยู่หรือใครจะไป?

SME ต้องรู้!  เคล็ดลับทำให้ “แบรนด์ใหญ่อยาก Collab ด้วย

ทุกวันนี้ Collaboration หรือการจับมือกับแบรนด์อื่น ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือ ทางลัด ที่ทำให้แบรนด์เล็กก้าวสู่สปอตไลต์ได้ในชั่วข้ามคืน แล้วแบรนด์เล็กจะทำอย่างไรให้แบรนด์ใหญ่หันมามองและยอม Collab ด้วย?