​SME พึงระวังใช้ “โซเชียลมีเดีย” อย่างเหมาะสม

 


เรื่อง : นเรศ เหล่าพรรณราย

    แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะเป็นเครื่องมือด้านการตลาดที่ทรงพลังและต้นทุนต่ำ แต่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีไม่ควรใช้ทุกอย่างที่มีอยู่แต่ควรที่จะเลือกใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันอย่างพอดี โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกและพิจารณาใช้โซเชียลมีเดียอย่างเหมาะสมดังนี้

    หนึ่ง....ใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น เพศหญิง เพศชาย,กลุ่มอายุ,ความสนใจส่วนตัว ฯลฯ โดยโซเชียลมีเดียแต่ละประเภทจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยไม่จำเป็นต้องเลือกใช้สื่อที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลัก

    สอง...ธุรกิจหรือสินค้าที่คุณทำอยู่เหมาะสมกับสื่อประเภทใด เช่น หากทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาพ เช่น ช่างภาพ สินค้าตกแต่งต่างๆ น่าจะเหมาะสมกับการใช้อินสตาแกรมเป็นสื่อหลัก ขณะที่ธุรกิจที่ต้องมีการสาธิตวิธีการใ้ช้อาจต้องใช้ยูทูปเป็นหลัก ถ้าหากเน้นให้ความรู้กับผู้ใช้งานก็ใช้เฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ เป็นต้น

    สาม...ความถี่ในการอัพเดตเรื่องราวของสินค้าและบริการ ผู้ติดตามโซเชียลมีเดียจะมีความคาดหวังต่อการอัพเดตคอนเทนท์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ทวิตเตอร์ มีความคาดหวังในการอัพเดตคอนเทนท์ถี่ที่สุด ขณะที่ผู้ติดตามยูทูปไม่ได้คาดหวังต่อการอัพเดตคอนเทนท์บ่อยครั้ง

    สี่...อย่าคิดว่าโซเชียลมีเดียจะตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง ผู้ประกอบการยุคใหม่ต่างคาดหวังว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้างโดยมีต้นทุนที่ต่ำหรือหลายคนคาดหวังเรื่องการไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ความจริงแล้วสื่อดั้งเดิม อย่างเช่น สิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ต่างเป็นสื่อที่มีอิทธิพลอยู่แม้ว่าจะถูกลดความสำคัญลง การแบ่งงบส่วนหนึ่งในการซื้อสื่อและทำประชาสัมพันธ์บนสื่อเก่ายังมีความสำคัญอยู่

    ห้า...ขาดทีมงานที่ดูแลเรื่องโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ แม้ปัจจุบันโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้หมดโดยเขียนคอนเทนท์เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าหากธุรกิจไม่มีผู้ดูแลด้านโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ อาจทำให้การใช้สื่อออนไลน์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากผู้รับสารอาจมองไม่เห็นความสำคัญของคอนเทนท์เพราะเนื้อหาซ้ำกันมากเกินไป

    หก...เวบไซท์ยังมีความสำคัญ แม้ปัจจุบันผู้คนจะนิยมติดตามข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่เวบไซท์อย่างเป็นทางการของบริษัทยังคมีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากมีความน่าเช่อถือและสามารถนำไปอ้างอิงได้ ผู้ประกอบการจึงไม่ควรละเลยที่จะพัฒนาเวบไซท์อย่างเป็นทางการให้มีความน่าสนใจในการเข้าไปชม อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการดึงผู้ชมเข้าไปยังเวบไซท์และให้เวบไซท์ช่วยเผยแพร่โซเชียลมีเดียได้

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์แนะนำว่าผู้ประกอบการควรใช้โซเชียลมีเดียไม่เกิน 5 ชิ้น โดยหลักแล้วจะใช้เฟซบุ๊คแฟนเพจ ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ยูทูป เป็นเครื่องมือหลัก ที่สำคัญคือต้องรู้จักการบริหารจัดการคอนเทนท์ให้เหมาะสมกับรูปแบบของสื่อและสอดประสานกันอย่างเป็นระบบ เช่น กำหนดเวลาการโพสต์คอนเทนท์ให้มีความต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้อย่างลงตัว

Create by smethailandclub.com

 

RECCOMMEND: MARKETING

ตลาดกาแฟไทยทะยาน  คนไทยดื่ม 340 แก้ว/ปี  ดันธุรกิจหมื่นล้านโตสวนเศรษฐกิจ

ในวันที่หลายธุรกิจยังต้องตั้งรับกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจผันผวน แต่ธุรกิจกาแฟยังคงขยายตัวต่อเนื่อง คนไทยมีการบริโภคกาแฟเฉลี่ยสูงถึง 340 แก้วต่อคนต่อปี ตลาดกาแฟในประเทศมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท รายได้ของร้านกาแฟมาจากเดลิเวอรีมากถึง 22%

สติ๊กเกอร์ยายคุยกับหลาน ไอเดียตกลูกค้าคาเฟ่ ผ่านบนสนทนาการ์ตูน 3 ช่อง

GIMBOCHA” หรือ “ร้านชาคุณยาย”ที่คิดไอเดียสร้างบทสนทนากับลูกค้าแบบน่ารักๆ ขึ้นมา ผ่านสติ๊กเกอร์การ์ตูน 3 ช่อง แปะลงบนแก้วเครื่องดื่มของลูกค้า

เจาะตลาด Kidult ผู้ใหญ่หัวใจยังเด็ก ลูกค้ากลุ่มเด็ดที่ SME ไม่ควรพลาด!

“ถึงตัวจะเป็นผู้ใหญ่ แต่หัวใจยังมีความเป็นเด็ก” เขาก็คือชาว Kidult หรือผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบสิ่งที่พาให้นึกถึงความเป็นเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังมาแรงและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับวงการของเล่นระดับโลก น่าสนใจขนาดนี้ ต้องลองไปทำความรู้จักกัน