หรือหยวนจะไปไม่ถึงฝันที่จะขึ้นเป็นเสาหลักของโลก




 



    ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินว่า IMF อาจจะเลื่อนเวลาการอนุมัติให้เงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) ออกไปก่อน ถึงแม้ว่าจีนจะมีความพยายามที่จะทำให้ค่าเงินหยวนสามารถถูกใช้ได้อย่างเสรีในเวทีเศรษฐกิจโลกมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแต่อาจยังไม่พอตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) 

    หนึ่งในเหตุผลหลักที่จีนลดค่าเงินลงร้อยละ 4.5 ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมเพื่อให้เงินหยวนสามารถเข้าสู่ตะกร้าสิทธิพิเศษถอนเงิน หรือ Special Drawing Rights หรือ SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วย ดอลลาร์ ยูโร เยน และปอนด์ ซึ่งอาจเป็นทางลัดสู่การขึ้นเป็นเงินสกุลหลักของโลก 

    โดย SDR เป็นสกุลเงินสมมติที่สร้างขึ้นโดย IMF และจัดสรรไปให้ประเทศที่เป็นสมาชิกของกองทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยมูลค่าของ SDR จะคิดจากมูลค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของเงินในตะกร้า ซึ่งปัจจุบัน 1 SDR มีค่าเท่ากับ 1.4 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 50 บาท (ณ วันที่ 21 สิงหาคม) ประเทศสมาชิกสามารถนำเงิน SDR ที่ตนถืออยู่ไปแลกเป็นเงินสกุลหลักทั้งสี่สกุลจากประเทศสมาชิกอื่นๆ ได้ในยามเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

    อย่างไรก็ตาม การจะเข้าตะกร้าเงิน SDR ได้นั้นมีเงื่อนไขหลักคือประเทศนั้นต้องมีมูลค่าการส่งออกมาก และสกุลเงินของประเทศนั้นมีการใช้และซื้อขายอย่างกว้างขวางนอกประเทศ จากมติของ IMF เมื่อปี 2010 ประเทศจีนผ่านเงื่อนไขแรกเนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกมากเป็นอันดับสองของโลกที่ 11% รองจากสหรัฐฯที่ 14% แต่ไม่ผ่านเงื่อนไขสองเพราะจีนยังควบคุมการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนหยวนอยู่ และยังไม่อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าออกประเทศได้อย่างเสรีจึงทำให้เงินหยวนไม่ถูกใช้เป็นสกุลเงินหลักอย่างกว้างขวางนอกประเทศ ข้อมูลล่าสุดของ IMF ชี้ให้เห็นว่าสัดส่วนการใช้เงินหยวนในการชำระเงินข้ามพรมแดนมีอยู่เพียง 1% เทียบกับดอลลาร์ที่ 42%, ยูโรที่ 37%, เยนที่ 4% และ ปอนด์ที่ 3% ในขณะที่การซื้อขายเงินหยวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.1% เทียบกับดอลลาร์ที่ 44%, ยูโรที่ 17%, เยนที่ 12% และ ปอนด์ที่ 6% 

    IMF จะมีการปรับเปลี่ยนตะกร้าเงิน SDR ทุก ๆ 5 ปี และ IMF จะตัดสินใจว่าจะนำหยวนเข้าตะกร้า SDR หรือไม่อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจีนได้พยายามลดการแทรกแซงค่าเงินหยวนและผ่อนคลายข้อจำกัดของการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าออกประเทศลง นอกจากนี้จีนได้ทำข้อตกลงกับหลาย ๆ ประเทศคู่ค้าเช่น รัสเซีย บราซิล อาเจนติน่า ให้มีการซื้อขายสินค้าในรูปเงินหยวน ผลที่ตามมาก็คือการใช้เงินหยวนในเวทีการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักทั้งสี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอลลาร์และยูโร บทบาทของหยวนยังถือว่าน้อยมาก 

    ทางศูนย์วิเคราะห์ฯ จึงประเมินว่า IMF อาจจะยังไม่อนุมัติให้เงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงิน SDR ได้ในปีนี้เนื่องจากจีนยังต้องพยายามทำให้ประเทศอื่นหันมาสนใจใช้และซื้อขายเงินหยวนมากขึ้นก่อน ถ้าจีนสามารถทำได้ IMF อาจจะอนุญาตให้หยวนเข้าตะกร้าเงิน SDR ได้ในการพิจารณารอบถัดไปในอีก 5 ปีข้างหน้า

SME Thailand เพื่อนคู่คิด ธุีรกิจเอสเอ็มอี
ติดตามข้อมูลดีๆ สำหรับ SME ได้ที่ www.smethailandclub.com

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะพฤติกรรม Gen Z 2025 ว่าที่ผู้กุมอำนาจซื้อในอนาคต

Gen Z กว่า 11.6 ล้านคนในไทย กำลังกลายเป็น ‘ผู้กุมอำนาจซื้อ’ รุ่นต่อไป ดังนั้น ธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรม ความคิด และแรงผลักดันของพวกเขา เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางตลาดจากผู้กุมกระเป๋าสตางค์ในอนาคตอันใกล้นี้

ถึงเวลาก็ต้อง...ขยับขยาย ส่อง 3 Beauty Blogger แตกไลน์สู่สายธุรกิจ

เหล่า Blogger ยุคเก๋าที่โลดแล่นอยู่ในวงการโซเชียลมาอย่างยาวนาน ต่างเริ่มต้นขยับขยายจากการเป็นแค่อาชีพ Blogger ข้ามสู่เส้นทางธุรกิจ และนี่คือธุรกิจจาก 3 Beauty Blogger ชื่อดัง ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธุรกิจแบบเต็มตัว

10 เทรนด์ Future Food โอกาสใหม่ธุรกิจไทย

โลกของอาหารกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ความอร่อย หรือแพ็กเกจที่สวยงามอีกต่อไป แต่ผู้บริโภคมองลึกถึง “วัตถุดิบ สุขภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม” และเทรนด์ที่น่าสนใจนี้ เรียกว่า “Future Food” ซึ่งจะมาสร้างโอกาสทองให้ธุรกิจไทย