ยอดไม่ดีเพราะคุณขายผิดวิธีไหม? รู้จัก 3 เทคนิคขายสินค้าให้เข้าเป้า ตรงใจลูกค้า

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main idea

  • สินค้าแต่ละอย่างที่เกิดขึ้น ย่อมถูกผลิตขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป

 

  • ฉะนั้นวิธีการขาย หรือนำเสนอสินค้าแต่ละอย่าง ก็ต้องแตกต่างกันไปด้วย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจได้ตรงจุด ทำยอดขายได้เข้าเป้ามากยิ่งขึ้น

 

     ปีๆ หนึ่งมีสินค้าถูกผลิตออกมาสู่ท้องตลาดจำนวนมาก แต่คุณรู้ไหม? ว่าจริงๆ แล้วทุกสินค้าไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ขายแบบเดียวกันทั้งหมด เพราะแต่ละสินค้าย่อมมีจุดเด่น และวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับลูกค้าที่แต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างกันออกไป ดังนั้นสินค้าอะไร ควรต้องขายแบบไหน วันนี้ชวนมาดู 3 เทคนิค เพื่อช่วยให้การขายสินค้าของคุณตรงจุด และเข้าเป้ามากยิ่งขึ้น

  • ขายสินค้า – ขายจุดเด่นของผลิตภัณฑ์

 

     วิธีการ : ขายข้อดี และลักษณะโดดเด่นของสินค้าและบริการที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อดี ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ โดยอาจสรุปออกมาให้เห็นเป็นข้อๆ และเลือกสักข้อที่เป็นจุดเด่นจริงๆ มาเป็นไฮไลต์ดึงดูดลูกค้า เช่น ดีไซน์ที่ทันสมัย, ราคาที่ย่อมเยากว่า, ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้สะดวก, ประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เป็นต้น

  • ขายโซลูชัน - ช่วยแก้ไขปัญหา

 

     วิธีการ : การขายสินค้าที่มีโซลูชันจะเป็นมากกว่าแค่การขายสินค้าหรือบริการทั่วไป แต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ดังนั้นวิธีการขายอย่างมีประสิทธิภาพคุณต้องเจาะเข้าไปยัง Inside ของลูกค้าให้ได้ว่า ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นคือ อะไร ส่งผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างไรบ้าง และสินค้าของคุณสามารถเข้าไปช่วยตอบโจทย์ หรือแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างไรบ้าง นำปัญหาขึ้นมาเล่าก่อน

     ซึ่งจะแตกต่างจากวิธีการแรกที่เน้นชูจุดเด่นและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ซึ่งหากมีผลการวิจัย หรือทดสอบออกมาให้เห็นได้ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยการขายสินค้าที่มีโซลูชัน อาจไม่ได้ออกมาดูหวือหวาเลยตั้งแต่ครั้งแรก เพราะต้องอาศัยการสื่อสารทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจก่อน แต่หากวันหนึ่งลูกค้าได้รู้จัก เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องการใช้แล้ว ก็สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายในทันที โดยไม่ต้องวานล้อมให้ยุ่งยาก

  • ขายเชิงลึก – นำเสนอสิ่งที่ดีกว่า

 

     วิธีการ : การขายแบบเชิงลึกในข้อสุดท้ายนี้ ถือเป็นขั้นกว่าที่ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งจากการขายโซลูชัน เพราะไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาได้เท่านั้น แต่อาจเป็นการช่วยป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศที่สามารถช่วยกำจัดเชื้อไวรัสในอากาศได้ ทำให้นอกจากได้อากาศที่เย็นฉ่ำเพื่อดับร้อนแล้ว ยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยไม่เกิดภูมิแพ้ หรือเจ็บป่วยได้ง่ายด้วย ฉะนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำ ก็คือ นำเสนอให้เห็นถึงปัญหา หรือสิ่งที่ดีกว่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจต้องใช้ทั้งหลักการเหตุผลและการสร้างภาพจินตนการให้ลูกค้าเห็นภาพและเกิดความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน เป็นการชี้จุดล่วงหน้าให้ลูกค้าเกิดความตระหนักรู้ และคิดเผื่อไปถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้

ที่มา : https://www.entrepreneur.com/growing-a-business/which-selling-technique-will-best-benefit-your-business/245771

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”