อยากปั้นแบรนด์ Art Toy ต้องรู้อะไรบ้าง สรุปไว้ให้ใน 6 ขั้นตอน

TEXT : Jay.Wannakhun

     ยังฮอตแบบต่อเนื่องกับกระแส art toy เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยเห็นขึ้นหน้าฟีดสักครั้ง เพราะคาแรคเตอร์บางตัวน่ารักจนทำอะไรก็กลายเป็นกระแสไปหมด ทำให้ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้ทำรายได้มากถึง 19,000 ล้านบาท จากรายงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

     Art Toy ฟังแค่ชื่อดูเหมือนเป็นของเล่นสำหรับเด็ก แต่จริงๆ แล้วเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ใหญ่วัยมีกำลังซื้อที่ชื่นชอบศิลปะ และสะสมของหายาก เพราะ Art Toy คือของเล่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นผลงานศิลปะ มักจะถูกออกแบบ และผลิตโดยศิลปิน โดยมีการออกแบบที่สร้างสรรค์ เป็นเอกลักษณ์มากกว่าของเล่นทั่วๆ ไป มีการผลิตในจำนวนจำกัด หรือทำเป็นแบบกล่องสุ่ม ซึ่งทำให้มีมูลค่าสูงในตลาดนักสะสมนั่นเอง

     ผู้ประกอบการที่อยากคว้าโอกาส สร้างแบรนด์ art toy ต่อยอดความสำเร็จกับความนิยมตอนนี้ แถมยังมีโอกาสเติบโตสูงอีกด้วย เราจะพามาดู มาศึกษากันว่า มีขั้นตอนไหนบ้างที่ต้องเจอ ถ้าอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ art toy ต้องรู้!

ขั้นที่ 1 หาไอเดียที่ใช่สำหรับคุณ

  • คิดไอเดีย และคอนเซ็ปต์ที่อยากทำ เลือกธีมหรือคาแรคเตอร์ที่อยากเล่าเรื่องราวผ่าน art toy

 

  • ลักษณะเด่นของคาแรคเตอร์ รูปร่าง สี ที่ไม่เหมือนใคร

 

  • ศึกษาตลาด art toy ว่ามีแนวโน้มและเทรนด์ยังไง ดูตัวอย่างแบรนด์ในตลาดที่ทำแล้วประสบความสำเร็จกับทำแล้วไม่เวิร์ค

 

ขั้นที่ 2 สร้างต้นแบบสู่ความปัง

  • ใช้โปรแกรม 3D model ในการสร้างต้นแบบ หรือจ้างคนออกแบบตามแบบไอเดียที่คิดไว้

 

  • ศึกษาและเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการผลิต art toy เช่น เรซิ่น, พลาสติก, ไวนิล, เหล็ก หรือวัสดุอื่นๆ

 

  • ใช้ 3D printing หรือวิธีการอื่นๆ เพื่อสร้างต้นแบบของ art toy ตรวจสอบและปรับปรุงต้นแบบจนกว่าจะได้ตามที่ต้องการ

 

ขั้นที่ 3 ลู่ทางการผลิต

  • ค้นหาและเลือกโรงงานผลิตที่สามารถทำ art toy ตามที่ต้องการได้

 

  • คำนวณต้นทุนการผลิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำบรรจุภัณฑ์

     -ค่าพิมพ์ 3D เริ่มต้นที่ 3,000 – 5,000 บาท

     -ราคาการผลิตต่อตัวเริ่มต้นที่ 500 - 1,000 บาท

*ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ การประกอบและตกแต่ง

  • ตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูง

 

ขั้นที่ 4: สร้างแบรนด์ให้โลกจำ

  • สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ ออกแบบโลโก้, สโลแกน

 

  • สร้างโปรไฟล์โซเชียลมีเดียสำหรับแบรนด์

 

  • วางแผนการตลาดเพื่อโปรโมต art toy ของคุณ เช่น การใช้ Social Media Marketing, Influencer Marketing, และทำ Content Marketing เพื่อดึงดูดลูกค้า

 

ขั้นที่ 5 วางแผนการขายดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

  • เลือกช่องทางการขายที่เหมาะสม เช่น การขายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง, แพลตฟอร์ม e-commerce หรือการฝากขายผ่านร้านค้า

 

  • ตั้งราคาขายที่เหมาะสมโดยต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิต

 

  • วางแผนการจัดการสต็อกสินค้า แพ็คของ และการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ

 

ขั้นที่ 6 เรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อปกป้องแบรนด์และการออกแบบของคุณ

 

  • จดแจ้งลิขสิทธิ์เพื่อปกป้องงานออกแบบของคุณจากการถูกละเมิด

 

 

 

     นี่คือ 6 ขั้นตอนที่จะช่วยให้การปั้นแบรนด์ Art Toy

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะพฤติกรรม Gen Z 2025 ว่าที่ผู้กุมอำนาจซื้อในอนาคต

Gen Z กว่า 11.6 ล้านคนในไทย กำลังกลายเป็น ‘ผู้กุมอำนาจซื้อ’ รุ่นต่อไป ดังนั้น ธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรม ความคิด และแรงผลักดันของพวกเขา เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางตลาดจากผู้กุมกระเป๋าสตางค์ในอนาคตอันใกล้นี้

ถึงเวลาก็ต้อง...ขยับขยาย ส่อง 3 Beauty Blogger แตกไลน์สู่สายธุรกิจ

เหล่า Blogger ยุคเก๋าที่โลดแล่นอยู่ในวงการโซเชียลมาอย่างยาวนาน ต่างเริ่มต้นขยับขยายจากการเป็นแค่อาชีพ Blogger ข้ามสู่เส้นทางธุรกิจ และนี่คือธุรกิจจาก 3 Beauty Blogger ชื่อดัง ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธุรกิจแบบเต็มตัว

10 เทรนด์ Future Food โอกาสใหม่ธุรกิจไทย

โลกของอาหารกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ความอร่อย หรือแพ็กเกจที่สวยงามอีกต่อไป แต่ผู้บริโภคมองลึกถึง “วัตถุดิบ สุขภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม” และเทรนด์ที่น่าสนใจนี้ เรียกว่า “Future Food” ซึ่งจะมาสร้างโอกาสทองให้ธุรกิจไทย