5 กลยุทธ์แบรนด์ตัวท็อป ที่ทำให้ลูกค้าหลงรัก โดยไม่เลียนแบบใคร

Text: Neung Cch.


     แบรนด์ที่ยืนหนึ่งในตลาด ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด หรือดีที่สุดในเชิงผลิตภัณฑ์ แต่มักเป็นแบรนด์ที่ กล้าคิดต่าง ทำต่าง และเข้าใจผู้คนลึกกว่าคู่แข่ง

     เส้นทางสู่การเป็น “ตัวท้อป” ไม่ได้เกิดจากการเล่นตามกติกาเดิมแต่มาจากการกล้าคิดใหม่ สร้างเกมใหม่ และลงมือก่อนที่ตลาดจะตั้งตัวทัน ธุรกิจที่โตไว มักไม่เดินตามเทรนด์... แต่มักเป็น “คนเขียนกติกาใหม่” แทน

     หากเป้าหมายการทำธุรกิจคุณอยากเป็นแบรนด์แบบนั้น นี่คือ 5 แนวคิดฉีกกรอบจากแบรนด์ระดับโลก  Spotify, TikTok, Google, ChatGPT (OpenAI) และ Netflix พร้อมแง่คิดที่เจ้าของกิจการทุกระดับสามารถหยิบไปใช้ เพื่อเร่งสปีดสู่จุดสูงสุด

1. อย่าขายแค่ของ ขายอารมณ์ด้วย – Spotify

     หลายคนมอง Spotify เป็นเพียงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงขนาดใหญ่ มีบทเพลงนับล้าน แต่ Spotify ไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวท้อปเพราะมีเพลงมากที่สุด หากแต่พวกเขาเข้าใจว่าผู้ฟังแต่ละคนมีรสนิยมเฉพาะตัว มีอารมณ์และความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา จึงเน้นมอบประสบการณ์พิเศษ ให้ลูกค้าสามารถสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดและรักษาผู้ใช้งานได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนอยากรู้สึก “พิเศษ” การสร้างประสบการณ์ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนตัว ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่เป็นหนึ่งในหัวใจของความสำเร็จ Spotify ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนแบรนด์ “เข้าใจเขา” มากกว่าขายของ

     แง่คิด: ลูกค้าไม่จำแบรนด์ที่ดีสุด แต่จำแบรนด์ที่ เข้าใจเขามากสุด

2. ให้ลูกค้าสร้างแบรนด์ร่วมกับคุณ – TikTok

     ความสำเร็จอันถล่มทลายของ TikTok ส่วนหนึ่งมาจากการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับวิดีโอ ที่สำคัญเป็นวิดีโอที่ใครๆ ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ ด้วยเครื่องมือถ่าย ตัดต่อ และฟิลเตอร์ที่ใช้ง่ายสุดๆ มันคือแพลตฟอร์มที่ ปลดล็อกพลังสร้างสรรค์ของคนทั่วไป จึงทำให้ Tiktok เติบโตด้วยพลังของชุมชน

     แง่คิด: การให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์ ช่วยเสริมพลังและสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

3. คิดไกลกว่าเดิม ไม่ยึดแค่สิ่งที่ทำได้ดี Google

     Google เคยมีแค่ search engine แต่ไม่หยุดพัฒนา: ซื้อ YouTube, พัฒนา Android, ปั้น AI ผ่าน Google Cloud ทุกอย่างคือการขยับก่อนที่โลกจะเปลี่ยน

     Google ไม่เคยหยุดที่สิ่งที่ตัวเอง “ทำได้ดี” แต่กล้าขยับก่อนที่ตลาดจะเปลี่ยน เพราะรู้ว่า ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง คนอื่นจะเปลี่ยนคุณแทน

     แง่คิด: อย่ารอให้ตลาดเปลี่ยนก่อน แล้วค่อยปรับ... ผู้ชนะ คือคนที่กล้าเปลี่ยนก่อน

4. คนใช้ไม่ต้องเก่ง แค่ใช้แล้วรู้สึกฉลาด  ChatGPT

     ChatGPT กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยคน คิด เก่งขึ้น ทำเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเรียนรู้ระบบอะไรซับซ้อน มันคือการเอา “AI” มาวางให้คนทั่วไปใช้แล้วรู้สึกว่า ตัวเองฉลาดขึ้น

     ChatGPT ไม่ได้แค่โชว์ว่า AI เก่งแค่ไหน แต่ตั้งใจทำให้ทุกคนใช้งานได้ โดยไม่ต้องเข้าใจเบื้องหลังซับซ้อน

     นี่คือตัวอย่างของนวัตกรรมที่ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกด้อย… แต่ทำให้รู้สึกว่า “ฉันก็ทำได้”

     แง่คิด: เทคโนโลยีที่ดีไม่ควรทำให้ลูกค้ารู้สึกด้อย แต่ควรทำให้เขา รู้สึกเก่งขึ้น

5. เปลี่ยนรูปแบบการเสพสื่อทั้งโลก  Netflix

     จากธุรกิจเช่าแผ่น สู่สตรีมมิ่งอันดับหนึ่งของโลก Netflix คือแบรนด์ที่ ฆ่าธุรกิจเดิมของตัวเอง ก่อนจะถูกคนอื่นฆ่า (Blockbuster) และเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชมทั่วโลก

     แง่คิด: ถ้าคุณไม่กล้าฉีกตัวเอง… คนอื่นจะฉีกคุณแทน

การฉีกกรอบในวันนี้ คือการปูทางสู่การเป็นผู้นำในวันหน้าถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ในตลาด อย่ารอให้ตลาดมากำหนดคุณ จงเป็นคนเขียนกติกาแทน

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เจาะพฤติกรรม Gen Z 2025 ว่าที่ผู้กุมอำนาจซื้อในอนาคต

Gen Z กว่า 11.6 ล้านคนในไทย กำลังกลายเป็น ‘ผู้กุมอำนาจซื้อ’ รุ่นต่อไป ดังนั้น ธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรม ความคิด และแรงผลักดันของพวกเขา เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางตลาดจากผู้กุมกระเป๋าสตางค์ในอนาคตอันใกล้นี้

ถึงเวลาก็ต้อง...ขยับขยาย ส่อง 3 Beauty Blogger แตกไลน์สู่สายธุรกิจ

เหล่า Blogger ยุคเก๋าที่โลดแล่นอยู่ในวงการโซเชียลมาอย่างยาวนาน ต่างเริ่มต้นขยับขยายจากการเป็นแค่อาชีพ Blogger ข้ามสู่เส้นทางธุรกิจ และนี่คือธุรกิจจาก 3 Beauty Blogger ชื่อดัง ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธุรกิจแบบเต็มตัว

10 เทรนด์ Future Food โอกาสใหม่ธุรกิจไทย

โลกของอาหารกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ความอร่อย หรือแพ็กเกจที่สวยงามอีกต่อไป แต่ผู้บริโภคมองลึกถึง “วัตถุดิบ สุขภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม” และเทรนด์ที่น่าสนใจนี้ เรียกว่า “Future Food” ซึ่งจะมาสร้างโอกาสทองให้ธุรกิจไทย