ในยุคที่สุขภาพกลายเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าความหรูหรา ตลาดฟิตเนสในประเทศไทยกำลังเขย่าตลาดด้วยการเติบโตที่น่าทึ่ง รายได้รวมในปี 2025 คาดว่าจะพุ่งทะลุหลัก 12,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 18% จากปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะคนหันมาออกกำลังกายมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ยึดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งแนวทางนี้ได้ส่งผลให้ฟิตเนสเฉพาะทาง โดยเฉพาะโยคะและพิลาทิส กำลังนำกระแสธุรกิจฟิตเนสในกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเริ่มออกกำลังกายสม่ำเสมอมากขึ้น
ปัจจุบัน มากกว่า 76% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศมาจากโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และเกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น โรคเบาหวาน จึงส่งผลให้การออกกำลังกายกลายเป็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
จากผลสำรวจของกรมพลศึกษา พบว่า คนไทยมีแนวโน้มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ โดยสัดส่วนของกลุ่มสำรวจที่อายุมากกว่า 15 ปี ที่ออกกำลังกายมากกว่า 3 วัน/สัปดาห์ และต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที เพิ่มขึ้นจาก 40.4% ในปี 2022 เป็น 44.4% ในปี 2024
ทั้งนี้ ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ในปี 2025 ระบุว่า 60.2% ของผู้ที่ออกกำลังกายเลือกใช้บริการฟิตเนส ขณะที่มีเพียง 39.8% ที่ออกกำลังกายในสถานที่อื่นๆ โดยปัจจุบันบทบาทของฟิตเนสนั้นไม่ใช่แค่สถานที่ออกกำลังกาย แต่ยังเป็นคอมมูนิตี้ที่รวมทั้งพื้นที่สำหรับการดูแลสุขภาพ พบปะผู้คน เพิ่มเติมด้วย
รายได้ธุรกิจฟิตเนสโตต่อเนื่อง ตามกระแสออกกำลังกายที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์
ปี 2025 คาดรายได้ธุรกิจฟิตเนสโต 18% ทะลุ 12,000 ล้านบาท จากจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 31 บริษัท
รายได้ของธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2023 หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระตุ้นให้คนหันมาใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ อย่างไรก็ตาม รายได้ของธุรกิจฟิตเนสยังคงกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวมทั้งประเทศ เนื่องจากการใช้บริการฟิตเนสมักมีค่าใช้จ่าย และกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากตลาดในเมืองเป็นหลัก
แนวโน้มฟิตเนสกรุงเทพฯ พิลาทิส–โยคะ นำกระแส
ในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2025 มีการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในกรุงเทพฯ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟิตเนสจำนวน 41 บริษัท โดยกว่า 56% มีการให้บริการโยคะหรือพิลาทิส
กระแสการออกกำลังกาย ที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรง ปรับบุคลิกภาพ และฟื้นฟูร่างกาย เช่น พิลาทิสและโยคะ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยในปี 2021 ซึ่งเก็บจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย 48.59 ล้านคน พบว่า ‘พิลาทิส’ เป็นกิจกรรมที่ผู้คนคาดหวังจะออกกำลังกายมากเป็นอันดับ 3 โดยมีสัดส่วนถึง 29.3% รองจาก ฮูลาฮูปและเวทเทรนนิ่ง สะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดจากฟิตเนสแบบดั้งเดิม สู่รูปแบบการออกกำลังกายแบบเฉพาะทางที่อยู่ในกระแสมากขึ้น
ความเสี่ยงของธุรกิจฟิตเนส
- การแข่งขันที่รุนแรงการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อย่างรวดเร็ว ฟิตเนสขนาดเล็กแบบเฉพาะทาง (เช่น พิลาทิส สตูดิโอและ) กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องพร้อมปรับตัวกับ เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคโซเชียลมีเดีย
- เทรนด์แอปพลิเคชันออกกำลังกาย เทรนเนอร์ออนไลน์ และคอนเทนต์ฟรีบน YouTube / TikTok กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หากฟิตเนสไม่มีเทคโนโลยีหรือบริการเสริมที่ดึงดูดเพียงพอ อาจถูกธุรกิจออกกำลังบนโซเชียลมีเดียแย่งส่วนแบ่งทางตลาดมากขึ้น
- ต้นทุนคงที่สูงและการพึ่งพาลูกค้าประจำ ค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างเทรนเนอร์ และค่าอุปกรณ์เป็นต้นทุนคงที่หลัก ทำให้ธุรกิจต้องพยายามรักษาจำนวนสมาชิก และเพิ่มสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอด
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี