วิธีตรวจสอบชื่อแบรนด์ มั่นใจไม่ละเมิดเครื่องหมายการค้า

     การตั้งชื่อแบรนด์เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดของการเริ่มต้นธุรกิจ เพราะ “ชื่อแบรนด์” เปรียบเสมือนตัวตนของสินค้าและบริการที่ช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย และสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักมองข้าม คือการตรวจสอบชื่อแบรนด์ก่อนใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิ์หรือซ้ำกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ซึ่งหากละเลยขั้นตอนนี้ อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายที่ส่งผลเสียต่อทั้งชื่อเสียงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ

     ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจใช้ชื่อแบรนด์ใด ๆ ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า “ชื่อแบรนด์ของคุณ” เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำ และไม่ละเมิดเครื่องหมายการค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยมีแนวทางตรวจสอบที่ควรรู้ดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบชื่อแบรนด์ผ่านฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา

     การตรวจสอบชื่อแบรนด์ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือการค้นหาข้อมูลเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้วในประเทศไทย โดยสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ที่มีฐานข้อมูลออนไลน์ให้ค้นฟรี

          - เข้าเว็บไซต์: https://tmsearch.ipthailand.go.th/ 

          - พิมพ์ชื่อแบรนด์ที่ต้องการตรวจสอบลงในช่องค้นหา 

          - ระบบจะแสดงรายการเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อคล้ายหรือเหมือนกับที่คุณกรอก

     หากพบว่ามีชื่อแบรนด์ใกล้เคียงกัน หรืออยู่ในหมวดสินค้าหรือบริการประเภทเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อนั้น เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปฏิเสธการจดทะเบียนหรือถูกฟ้องร้องละเมิดเครื่องหมายการค้าในภายหลัง

2. ตรวจสอบในช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย

     นอกจากการตรวจสอบชื่อแบรนด์จากฐานข้อมูลทางการแล้ว การค้นหาชื่อแบรนด์ผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น Google, Facebook, Instagram, TikTok หรือ Lazada และ Shopee ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะในบางกรณีอาจมีผู้ใช้ชื่อแบรนด์นั้นอยู่แล้ว แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนในตลาดหรือกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณได้

     หากพบว่ามีแบรนด์ที่ใช้ชื่อเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว ควรพิจารณาปรับเปลี่ยนชื่อให้แตกต่าง หรือเพิ่มคำที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการทับซ้อนและสร้างความโดดเด่นให้มากขึ้น

3. ตรวจสอบความเหมือนของโลโก้และสัญลักษณ์

     ชื่อแบรนด์ไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่ต้องตรวจสอบ แต่ “โลโก้” ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายการค้า หากโลโก้ของคุณมีลักษณะคล้ายกับโลโก้ของแบรนด์อื่น ไม่ว่าจะเป็นสี ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ ก็อาจถูกมองว่าเป็นการละเมิดได้เช่นกัน

     ผู้ประกอบการควรตรวจสอบโลโก้ในฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าหรือค้นหารูปภาพผ่าน Google Image เพื่อเปรียบเทียบความคล้ายคลึง หากพบว่ามีโลโก้ที่ใกล้เคียงกันมาก ควรปรับดีไซน์ใหม่ให้แตกต่างอย่างชัดเจน

4. พิจารณาหมวดหมู่ของสินค้าและบริการ

     การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจะแบ่งตาม “หมวดหมู่สินค้าและบริการ” เช่น หมวดเสื้อผ้า (Class 25), หมวดอาหารและเครื่องดื่ม (Class 30), หมวดบริการร้านอาหาร (Class 43) เป็นต้น หากชื่อแบรนด์ซ้ำกับแบรนด์อื่นแต่คนละหมวดหมู่ อาจยังสามารถจดทะเบียนได้

     อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยง ควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าหมวดหมู่ของสินค้าคุณอยู่ในขอบเขตเดียวกับเครื่องหมายการค้าที่มีอยู่แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งแม้จะอยู่ต่างหมวดหมู่แต่ก็อาจได้รับการคุ้มครองข้ามประเภท

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา

     หากไม่มั่นใจว่าชื่อแบรนด์ที่เลือกสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา หรือบริษัทที่ให้บริการจดเครื่องหมายการค้า จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

     ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยตรวจสอบความเป็นไปได้ในการจดทะเบียน ประเมินความเสี่ยงของการละเมิด และแนะนำแนวทางในการออกแบบชื่อหรือโลโก้ให้เหมาะสม รวมถึงช่วยดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

6. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทันทีเมื่อมั่นใจ

     เมื่อมั่นใจแล้วว่าชื่อแบรนด์ของคุณไม่ซ้ำหรือใกล้เคียงกับแบรนด์อื่น ควรรีบดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อปกป้องสิทธิ์ในชื่อและโลโก้ของคุณให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากใช้ชื่อไปก่อนโดยไม่จดทะเบียน อาจเสี่ยงถูกผู้อื่นนำไปจดแทนได้

     ชื่อแบรนด์ที่ดีไม่เพียงต้อง “โดดเด่นและจำง่าย” แต่ยังต้อง “ปลอดภัยทางกฎหมาย” ด้วย การตรวจสอบชื่อแบรนด์ก่อนใช้งานจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า และช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง

     หากต้องการความมั่นใจมากขึ้น การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาจะช่วยให้คุณตั้งชื่อแบรนด์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมปกป้องสิทธิ์ของคุณในระยะยาวอย่างมืออาชีพ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

NEWS & TRENDS