ยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ครึ่งปีแรกวูบ

"อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า" เผยยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ครึ่งปีแรกร่วง ประเมินครึ่งปีหลังสดใส



    "อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า" เผยยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ครึ่งปีแรกร่วง ประเมินครึ่งปีหลังสดใส

    น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือน มิ.ย.57 มีธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน บริษัททั่วประเทศ 5,199 ราย เพิ่มขึ้น 616 ราย จากเดือนพ.ค.ที่มี 4,583 ราย คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (มิ.ย.56) จะลดลง 554 ราย คิดเป็นลดลงร้อยละ 10 โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 552 ราย อสังหาริมทรัพย์จำนวน 262 ราย และขายส่งเครื่องจักร จำนวน 127 ราย ตามลำดับ

    สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกกิจการทั่วประเทศในเดือนมิ.ย.57 มีจำนวน 1,286 ราย ส่งผลให้ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิ.ย.57 มีห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 564,904 ราย ทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.79 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 394,178 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,059 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 169,667 ราย

    อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ในครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.57) มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศรวม 29,466 ราย ลดลง 6,916 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 56 โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในครึ่งแรกของปี 57 มีจำนวนทั้งสิ้น 118,761 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 56 สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในครึ่งปีแรก 2557 มีจำนวน 5,850 ราย เพิ่มขึ้น 459 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 56

    สำหรับแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง(ก.ค.-ธ.ค.57) คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมิถุนายน 2557 ที่สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้เร่งดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันการใช้จ่ายจากทางภาครัฐ , มาตรการสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง, การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 และจัดทำงบประมาณปี 58 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในการลงทุนกลับมาอีกครั้ง และผลักดันให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีขึ้น

ที่มา : www.bangkokbiznews.com

NEWS & TRENDS