​พาณิชย์เข้มงวดจัดตั้งนิติบุคคลทุน 5 ล้านบาทขึ้นไป

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเรียกเอกสารประกอบ การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดให้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือมากขึ้น เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้าน ก่อน



    กระทรวงพาณิชย์  โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเรียกเอกสารประกอบ การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดให้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือมากขึ้น เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่   ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้าน ก่อน

     พลเอก ฉัตรชัย  สาริกัลยะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการนำทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้ไปใช้ประโยชน์ในการทำนิติกรรมและประกอบธุรกิจจำนวนมาก  จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานผู้รับจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียนจัดตั้งและเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทให้มากขึ้น 

    โดยให้ปรับปรุงเรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งและการเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทให้มีการส่งเอกสารประกอบการจดทะเบียนที่น่าเชื่อถือและสามารถยืนยันได้ว่ามีการชำระเงินลงทุนตามที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งหรือจดทะเบียนเพิ่มทุน โดยกำหนดให้ผู้ขอจดต้องแสดงหลักฐานการรับเงินลงทุน     จากผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนในวันที่ยื่นจด และต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งภายใน 15 วัน หากเป็นการลงทุนด้วยทรัพย์สินต้องแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์   ในทรัพย์สินนั้นๆ ภายใน 90 วันนับจากวันจัดตั้ง  

    ส่วนกรณีเพิ่มทุนห้างหุ้นส่วนและบริษัทต้องแสดงหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นที่ธนาคารออกให้ต่อนายทะเบียนในวันยื่นขอเพิ่มทุนด้วย  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับห้างหุ้นส่วนและบริษัท ที่จัดตั้งให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

     ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลกับการอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการจดทะเบียน  จึงให้คงนโยบายสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)  โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง   ที่ (จ) 205/2557 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งและเพิ่มทุนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด กำหนดให้เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกินกว่า       5,000,000 บาท (ห้าล้านบาท) ขึ้นไป  ซึ่งจะมีผลต่อผู้ยื่นจดทะเบียนตั้งใหม่เพียงประมาณร้อยละ 4 ของผู้ยื่นขอ      จดทะเบียนทั้งหมด หรือ 2,500  รายต่อปี (จากธุรกิจที่จดทะเบียนตั้งใหม่ประมาณ 60,000 – 65,000 รายต่อปี)         โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2558  เป็นต้นไป

ที่มา : www.thanonline.com
 

NEWS & TRENDS