อินเตอร์ อโกเทค สบช่องเกษตรอินทรีย์บูมเร่งพัฒนาการผลิตโกยยอด

อินเตอร์ อโกร เทค เล็งเห็นช่องว่างด้านการตลาด ประกาศ พร้อมเป็นผู้นำการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมีที่ได้มาตรฐานระดับสากล

  
 





     อินเตอร์ อโกร เทค เล็งเห็นช่องว่างด้านการตลาด ประกาศ พร้อมเป็นผู้นำการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมีที่ได้มาตรฐานระดับสากล

    คุณจิระชัย พุทธวงค์ ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ อโกร เทค จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งดำเนินการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยจากมูลค้างคาวมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การเกษตรเชิงอินทรีย์ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหลายประเทศ และในประเทศไทยเอง เกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมูลค้างคาวได้ชื่อว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีคุณภาพสูง

 



     โดยบริษัท ได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ณ บริเวณ เขาหน่อ-เขาแก้ว จ.นครสวรรค์ ประกอบไปด้วยถ้ำเล็ก-ใหญ่ จำนวน 38 ถ้ำ ภายในถ้ำมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนนับล้านล้านตัว จึงเต็มไปด้วยมูลค้างคาวจำนวนมหาศาลทั้งมูลใหม่และมูลเก่าที่ทับถมกันมาเป็นเวลานาน โดยชาวบ้านจะเก็บมูลค้างคาวในเวลากลางคืนเท่านั้นเพราะเป็นช่วงเวลาที่ค้างคาวออกไปหากินและไม่เป็นการทำลายสภาพธรรมชาติเพื่อให้ค้างคาวได้อาศัยอยู่ได้ต่อไป ทางบริษัทฯ จะนำมูลค้างคาวจำนวนมากที่ได้เก็บไว้ภายในโกดังเก็บวัตถุดิบซึ่งมีเนื้อที่กว่า 8 ไร่ เพื่อรอเข้าสู่กระบวนการผลิตปุ๋ย โดยบริษัทได้มาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ตั้งแต่ปี 2551

 




    "ก่อนหน้านี้ก็พบปัญหาหลายอย่าง ทั้งในด้านแผนการผลิต การคำนวณต้นทุนราคา และการกำจัด Waste ในแต่ละกระบวนการผลิต จนกระทั่งได้ทราบถึงกิจกรรม CF ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ยังขาดองค์ความรู้ด้านต่างๆ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมการบริการเงินสมทบจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงการผลิต การจัดการ การตลาด และการบริการ(Consultancy Fund ) หรือ กิจกรรม CF ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอคำปรึกษาแนะนำจากที่ปรึกษา   บริษัทฯ จึงขอรับบริการในเรื่องการจัดการระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในองค์กร’


 


      ช่วงแรกที่ปรึกษาเข้ามามีการประชุมกันเพื่อปรับปรุงตามคำขอรับบริการ แต่ขณะนั้นบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไปยังโรงงานแห่งที่ 2 และประสบปัญหาเรื่องการวางแผนในการผลิต ซึ่งในปัจจุบันผลิตตามออเดอร์ของลูกค้าและตามช่วงฤดูกาลที่เกษตรกรต้องการ จึงทำให้ต้องมาเริ่มต้นปรับระบบการผลิตใหม่ เนื่องมาจากบริษัทมีลูกค้ามากและผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย  ที่ปรึกษาได้ให้คำแนะนำให้สร้างโปรแกรมโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ผลที่เกิดขึ้น คือ มีแผนการผลิตที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบต้นทุนได้ และลดความสูญเสียในแต่ละกระบวนการ ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในทุกกระบวนการผลิต 

 


    “ความสำเร็จทั้งหมดนี้ คงต้องขอบคุณกิจกรรมดีๆจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งหลังจาก เข้าร่วมกิจกรรม CF แล้ว บริษัท ก็สามารถวางแผนการผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละฤดูกาล ทำให้ลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs ให้มาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม CF เพราะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์กับผู้ประกอบการเป็นอย่างยิ่ง" คุณจิระชัยกล่าว 

www.smethailandclub.com ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)

NEWS & TRENDS