นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ประกอบด้วย การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับ SMEs ที่มีผลกำไรไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 150,000 บาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ประกอบด้วย การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับ SMEs ที่มีผลกำไรไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 150,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการที่มีผลกำไร 300,001-1 ล้านบาท จะเก็บภาษีร้อยละ 15 ส่วนผู้ประกอบการที่มีกำไรเกิน 1 ล้านบาทคิดอัตราภาษีร้อยละ 20 เท่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะ SMEs ประมาณ 210,000 รายได้รับประโยชน์ แม้ว่ากระทบต่อการจัดเก็บภาษีภาครัฐประมาณ 2,800 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรม ที่พัก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับการประกอบธุรกิจรายปีลดลงร้อยละ 50 จากปัจจุบันจัดเก็บห้องละ 80 บาท ต่อปีเหลือ 40 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี กระทบต่อการจัดเก็บภาษี 100 ล้านบาทต่อปี และคณะรัฐมนตรียังสั่งการให้กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ กลับไปทบทวนอัตราค่าจัดอบรม ประชุมสัมมนาของหน่วยงานข้าราชการต่างๆ ให้สูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน คาดว่ามาตรการของรัฐบาลในครั้งนี้ จะทำให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่องเพิ่มเพราะกำลังซื้อของประชาชนมีมากขึ้น และทำให้ผู้ประกอบการ SMEs มีรายได้จากการใช้จ่ายของประชาชน จึงมั่นใจว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้ของรัฐบาลจะไม่ทำให้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการตั้งกองทุนเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายค่าจ้างเพิ่มขึ้นบางส่วนให้กับผู้ประกอบการนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่เห็นด้วย เพราะเป็นภาระต่องบประมาณเกินไป ส่วนการปรับลดภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2 สำหรับการรับเหมาช่วงนั้นต้องกลับไปทบทวนอีกครั้ง เพราะกระทบต่อภาระงบประมาณถึง 20,000 ล้านบาท และต้องดูว่าหากปรับลดแล้วจะส่งผลดีกับเอสเอ็มอีจำนวนเท่าใด ส่งผลดีต่อแรงงานอย่างไร จากนั้นจะนำมาเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบขยาย 11
มาตรการเดิม ซึ่งเคยเห็นชอบไปแล้วออกไปอีก 1 ปี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ให้มีผลทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.56 เป็นต้นไป