ยุคนี้การพิมพ์ดิจิทัลและพิมพ์บรรจุภัณฑ์กำลังเติบโตจนเรียกได้ว่าเป็น Sunrise ไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป มองว่าการพิมพ์ดิจิทัลในจำนวนน้อยจะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต จึงเริ่มขยับขยายหาโอกาสให้กับธุรกิจ
รวมกลยุทธ์ที่จะฉุดลูกค้าให้เข้าหาแบรนด์ ในวันที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย
หลายคนมองว่าการที่หลายอุตสาหกรรมแทบจะทั่วโลกทยอยปิดตัวลงจนก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมที่นำไปสู่การล้มเป็นโดมิโนของธุรกิจต่างๆ มาจากการระบาดของโควิด-19 แต่ความจริงแล้ว การปิดตัวของธุรกิจค้าปลีกเริ่มต้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันของผู้ที่ประสบความสำเร็จการทำธุรกิจในโลก คือหลายๆ คนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำธูรกิจอย่างไร แต่ท้ายสุดพวกเขาก็สามารถผ่านมาได้และกลายเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่น่าทึ่ง
รู้หรือไม่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมือสองเฟื่องฟูสวนกระแสโควิด โดยปัจจุบันมีมูลค่าถึง 28,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าสูงถึง 64,000 ล้านดอลลาร์
ท่ามกลางความโหดร้ายของตลาดแรงงานในวันที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส ยังมีสัญญานดีๆ ของ 5 อาชีพ 5 ธุรกิจ ที่ยังเป็นที่ต้องการในยุคโควิด-19 ไปหาคำตอบเรื่องนี้กัน
ภาครัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ในระยะที่หนึ่งไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ระยะที่สองเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม และล่าสุดระยะที่สาม ในวันที่ 1 มิถุนายน เพื่อให้กิจการและกิจกรรมหลายประเภทสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็ว่า CLMV คือตลาดแห่งความหวังของผู้ส่งออกไทย แต่ทว่าทันทีที่พายุไวรัสโควิด-19 พัดผ่าน ตลาดที่เคยหอมหวานกลับเปลี่ยนแปลงไป ในวันนี้ประเทศแห่งความหวังกำลัง “บอบช้ำ”
โลกการทำธุรกิจจะเปลี่ยนหน้าตาไปจากเดิม หลังวิกฤตไวรัสโควิด-19 ผ่านพ้น สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การอยู่รอดให้ได้ในวิกฤต แต่ชีวิตหลังวิกฤตนั้นผู้ประกอบการจะต้องทำยังไง นี่คือโจทย์ที่ท้าทายยิ่งกว่า
เมื่อสถานการณ์โควิดกำลังส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกใบนี้ สิ่งที่จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนนั่นคือพฤติกรรมของผู้บริโภค พวกเขาจะระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น กังวลเรื่องของอนาคตมากขึ้น นี่เป็นโจทย์สำคัญของแบรนด์ที่ต้องคิดให้ออกว่าจะทำอย่างไร!
พาไปรู้จักฟุ่ง เล เลิม ฮาย นักธุรกิจหนุ่มชาวเวียดนามที่ก่อตั้งบริษัทในสหรัฐฯ และผลิตรองเท้า “Made in Vietnam” เพื่อขายทั่วโลก
ธนาคารกรุงเทพ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภท เอ็มแอลอาร์ เอ็มโออาร์ และเอ็มอาร์อาร์ ลง 0.40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนลดต้นทุนทางการเงินรับมือโรคโควิด 19 มีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 63