META ออกมาเผยรายงาน Widely Viewed Content ไตรมาส 3 ปี 2022 ใจความสำคัญ คือ เฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับโพสต์ที่เพื่อนแชร์มากที่สุด แสดงเนื้อหาจากเพจน้อยที่สุด

กระแส "social inclusivity" หรือการโอบรับผู้คนทุกกลุ่มให้อยู่ร่วมในสังคมกำลังมาแรง หลายองค์กรได้นำมาปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการยอมรับและมอบโอกาสในการทำงานใหักับผู้แตกต่าง ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ "Mindbrew" ร้านกาแฟในฮ่องกงที่พนักงานทุกคนในร้านเคยมีประสบการณ์ป่วยทางจิต

ยิ่งจำนวนลูกค้ามีมากเท่าไหร่โอกาสทางธุรกิจก็ย่อมมากขึ้นเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่การทำตลาดส่งออกจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของเอสเอ็มอีหลายๆ ราย "อินโดนีเซีย" คือ หนึ่งในประเทศอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตลอดปี 2565 นี้

รู้ดีว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเร็ว จึงทำให้มีความต้องการที่เปลี่ยนไปนั่นเอง วันนี้เลยพาผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามมารู้ 7 เทรนด์ความงามที่ผู้คนไทยให้ความสำคัญ เพื่อจะได้นำเอาไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง

การสร้างความหลากหลาย (diversity) และการรับรวมทุกกลุ่มคน (inclusion) กำลังกายเป็นส่วนหนึ่งอันสำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบัน เพราะหมายถึงการเปิดรับผู้คนที่มีความไม่เหมือนกันในด้านต่างๆ เช่นทักษะ ความสามารถ ให้กับบริษัท

 เป็นที่ทราบกันว่าชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำเปล่าของชาวเอเชีย แต่จริงๆ แล้วในสมัยโบราณเราก็มีวัฒนธรรมดื่มกาแฟ เครื่องดื่มคาเฟอีนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม จนนำไปสู่อุตสาหกรรมทำเงินในที่สุดในยุคปัจจุบัน

ในสนามแข่งขันที่เต็มไปด้วยคู่แข่งมากมาย กลยุทธ์หนึ่งของการทำธุรกิจที่ใช้มัดใจลูกค้าได้ดี ก็คือ ให้มากกว่าที่ลูกค้าคิดว่าจะได้รับ เพื่อไม่ให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปไหน เหมือนกับคอนเซปต์ของแบรนด์ Otteri Wash & Dry แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมงที่เปิดดำเนินธุรกิจมาได้ 5 ปี มีสาขาแล้วกว่า 750 แห่งทั่วประเทศ

“Bitty & Beau’s Coffee” ร้านกาแฟในสหรัฐอเมริกาที่เปิดตัวขึ้นมาจากสามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีลูก 3 ใน 4 เข้าข่ายพิการ เพื่อปูทางสร้างอาชีพให้กับลูกๆ และสร้างชุมชนจ้างงานช่วยเหลือผู้พิการคนอื่นๆ เขาจึงได้คิดโมเดลดังกล่าวขึ้นมา

สมุนไพรไทยมีชื่อเสียงมากในระดับโลก ซึ่งมูลค่าตลาดกว่า 12,211 ล้านบาท การจะทำให้ธุรกิจสมุนไพรเติบโตไปสู่ตลาดโลกได้ ต้องเพิ่มมูลค่าสินค้าให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า และเทรนด์ในปัจจุบัน

ใครจะคิดว่าแพลตฟอร์ม Tiktok ที่มีคอนเทนต์ร้องๆ เต้นๆ จะมาแรงมากในโลกโซเชียล มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมา และดึงดูดเวลาจากผู้คนได้เป็นอย่างดี จึงไมแปลกใจที่เห็นผู้ประกอบการหลายรายได้ไปใช้แพลตฟอร์มนี้

หากยิงคำถาม ถามผู้ประกอบการในวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่ม OTOP ว่าตัองการพัฒนาธุรกิจด้านใด คำตอบส่วนใหญ่ที่ได้มักเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ อยากทำสินค้าให้สวย ดูดีเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยหารู้ไม่ไม่ว่านั่นอาจเป็นกับดักที่นอกจากไม่ทำให้เกิดกำไรแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นขยะทางธุรกิจ

  แนวทางการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของแต่ละคน แต่ละองค์กรอาจมีที่มาต่างกันไป บ้างก็ใช้แพสชั่น บ้างก็ต่อยอดธุรกิจจากที่บ้าน แต่น้อยคนนักที่จะใช้คำว่า WHY เป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เปลี่ยนบริษัทเล็กๆ ให้ก้าวสู่คำว่า “มหาชน” ภายในเวลา 7 ปี