เรียบเรียง : N.P.
กาแฟที่ไม่มีเมล็ดกาแฟเลยสักเมล็ด ฟังดูเหมือนเรื่องเพ้อฝันหรือไอเดียชวนหัวเราะ แต่สำหรับ เจค เบอร์เบอร์ (Jake Berber) และ ติง เจีย แทน (Ding Jie Tan) ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ Prefer พวกเขากลับทำให้มันกลายเป็นจริงขึ้นมา
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ประกาศข่าวใหญ่ว่า Prefer สามารถระดมทุนได้ถึง 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรอบ Pre-series A ที่นักลงทุนให้ความสนใจจนเกินโควตา และพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยสองประเทศแรกที่เลือกคือ ไทย และ ออสเตรเลีย
ในก้าวใหม่นี้ Prefer จับมือกับสองยักษ์ใหญ่ระดับโลกในอุตสาหกรรม FMCG ได้แก่ Ajinomoto ในไทย และ The Coffee Ferm ในออสเตรเลีย เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมกาแฟยั่งยืน โดยในไทยจะเป็นการพัฒนาสินค้าใหม่ ส่วนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะเน้นการใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาด้านรสชาติ เพื่อนำไปสู่การผลิตและกระจายสินค้าในวงกว้าง
จากไอเดียสุดแหวกสู่สินค้าขายจริง
Prefer ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 และสร้างชื่อจากการคิดค้น “กาแฟไร้เมล็ด” ด้วยการนำเศษอาหารเหลือใช้ เช่น ขนมปัง ถั่วเหลืองบด และกากธัญพืช มาผ่านกระบวนการหมัก เพื่อให้ได้รสชาติ กลิ่น และประสบการณ์การชงที่ใกล้เคียงกับกาแฟแท้มากที่สุด
เดิมทีการหมักมักใช้เพื่อถนอมอาหารและยืดอายุการเก็บรักษา แต่ Prefer กลับนำวิธีนี้มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ทั้งคู่เริ่มจากกาแฟผงและกาแฟพร้อมดื่ม ก่อนจะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาเรื่อยๆ
ในเดือนเมษายนปีนี้ Prefer เปิดตัว กาแฟกระป๋อง และร่วมมือกับ Le Tech Vending ในเครือ SMRT เพื่อตั้งตู้จำหน่ายอัตโนมัติที่สถานี MRT 8 แห่งทั่วสิงคโปร์ ต่อมาไม่นานก็ออกสินค้าใหม่คือ กาแฟผงไร้เมล็ด และ ผงโกโก้ไร้โกโก้
แรงผลักดันสำคัญมาจากราคากาแฟและโกโก้ที่พุ่งสูง และห่วงโซ่อุปทานที่ผันผวน คู่ค้าของ Prefer จึงเรียกร้องสินค้าที่สามารถใช้ทดแทนในรูปแบบ instant mixers เพื่อลดต้นทุนและความเสี่ยง ขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอีกด้วย
เจค ซีอีโอของ Prefer อธิบายว่า “สิ่งนี้ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถยืดวัตถุดิบ ลดต้นทุน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้”
แต่กว่าจะได้สูตรที่ใช้งานเชิงพาณิชย์จริง ทีมงานต้องใช้เวลากว่า 12 เดือน ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งการเลือกวัสดุและการผสมจุลินทรีย์ “เราต้องปรับตัวเฉพาะหน้าและทดลองวิธีใหม่ๆ ตลอดเวลา” ติง เจีย กล่าว
ความพยายามที่ไม่ยอมแพ้
ตลอดปีที่ผ่านมา Prefer ยังมุ่งสร้างเครือข่ายคู่ค้าในสิงคโปร์ ทั้งขายสินค้าผ่านร้านอาหาร ฟิตเนส และแบรนด์ F&B ต่างๆ อย่าง Anytime Fitness, Guzman y Gomez, Kind Kones และ Melvados
แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตัวอย่างเช่น เจคเล่าว่า เขาเคยไปที่เคาน์เตอร์โรงแรม The Fullerton เพื่อขอชื่อผู้บริหารฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มด้วยตนเอง นั่งรอจนได้เบอร์โทรและอีเมล จากนั้นก็พยายามติดต่อซ้ำๆ แม้จะถูกปฏิเสธเพราะบรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติก เขาก็ไม่ยอมแพ้ รีบปรับสูตรเป็นกระป๋องเพื่อกลับไปเสนอใหม่ แต่สุดท้ายผู้บริหารเดิมก็ลาออกไป ทำให้ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
แม้จะล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ความพยายามในที่สุดก็สัมฤทธิ์ผล เพราะในเดือนกรกฎาคม 2025 Prefer ได้วางขายสินค้าที่ The Fullerton สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูเหมือน Prefer เติบโตจากการขายสินค้าปลีก แต่ในความจริง รายได้หลักมาจากธุรกิจ B2B โดยการจับมือกับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในวงกว้าง และสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเชิงบวกได้มากกว่า
นี่คือการกลับไปสู่แก่นแท้ของภารกิจ Prefer สร้างทางเลือกกาแฟที่ยั่งยืน ราคาจับต้องได้ และทนทานต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ก้าวสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก
วันนี้ Prefer ยืนหยัดอย่างมั่นคงในสิงคโปร์ พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก โดยเริ่มจากไทยและออสเตรเลีย รวมถึงกำลังขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ
เจคเปิดเผยว่า ตลาดเอเชียยังมีศักยภาพมหาศาล โดยเฉพาะความต้องการกาแฟและโกโก้ที่เพิ่มขึ้นไม่ หยุด ขณะเดียวกัน Prefer ก็เริ่มมีเสียงเรียกจากตลาดสหรัฐฯ และยุโรปที่ติดต่อเข้ามาเช่นกัน
ด้านติง เจีย เสริมว่า บริษัทมีแผนจะต่อยอดเทคโนโลยีการหมักและการสร้างรสชาติ เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่อาจไปไกลกว่ากาแฟและโกโก้ โดยมีการแย้มว่าจะมี ช็อกโกแลตไร้โกโก้ เปิดตัวในอนาคต
กาแฟของ Prefer อาจไม่แทนที่กาแฟดั้งเดิมทั้งหมด แต่สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น กำลังทำให้กาแฟอยู่กับเราได้อีกยาวนาน ในแบบที่ยั่งยืนกว่าเดิม
ที่มา : www.vulcanpost.com
Image Credit : Instagram@prefercoffeesg
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี