Text : Jitti
ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเดิม การเป็นผู้นำธุรกิจไม่ใช่แค่เก่งงานเท่านั้นแต่ยังต้องเก่งแก้ปัญหาด้วย และสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่มีทักษะการแก้ปัญหาแบบผู้นำ จะสร้างความได้เปรียบทั้งด้านความเร็ว คุณภาพ และความยืดหยุ่นในการแข่งขัน
นี่คือ 6 แนวคิดการแก้ปัญหาแบบผู้นำ พร้อมตัวอย่างจากผู้นำระดับโลก
1. วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนลงมือแก้ (Situational Analysis) ผู้นำที่ดีไม่รีบ “ลงมือทำ” ทันที แต่เริ่มจากการเข้าใจสถานการณ์รอบด้านก่อนลงมือแก้ ทั้งสาเหตุของปัญหา ผลกระทบ และสภาพตลาด โดยอาจจะใช้เครื่องมือเช่น SWOT Analysis (จุดแข็ง-จุดอ่อน-โอกาส-ภัยคุกคาม) มาช่วยในการวิเคราะห์สถานการณ์
ตัวอย่าง : สัทย่า นาเดลลา (Satya Nadella) CEO ของ Microsoft ที่เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์บริบทองค์กรก่อนเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่ Cloud-first และ Mobile-first
2. แก้ปัญหาด้วยความร่วมมือ (Collaborative Problem Solving) ในหลายองค์กรโดยเฉพาะที่ทำงานเป็นทีมใหญ่หรือมีหลายฝ่าย การตัดสินใจแบบ “มีส่วนร่วม” จะช่วยดึง “พลังสมองรวม” ทำให้ได้มุมมองที่หลากหลาย และเพิ่มความรู้สึกเป็นเจ้าของของทีม
ตัวอย่าง : แมรี บาร์รา (Mary Barra) ของ GM ที่ใช้การทำงานข้ามทีมเพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยของรถยนต์
3. ตัดสินใจชัดเจน รวดเร็ว และมั่นใจ (Decisive Action) โอกาสในตลาดมักอยู่แค่ช่วงสั้นๆ โดยหลังวิเคราะห์และรับฟังข้อมูล ผู้นำที่ประสบความสำเร็จจึงต้องตัดสินใจให้ทันเวลา การรอหรือไม่ตัดสินใจ อาจจะทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นใหญ่ได้
ตัวอย่าง : เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) แห่ง Amazon ที่ผลักดัน Amazon Prime แม้ข้อมูลยังไม่ครบ แต่เชื่อว่าความเร็วสร้างความได้เปรียบ
4. ปรับตัวไว ทดลองไว เรียนรู้ไว (Adaptive & Iterative Approach) แทนที่จะหวัง “ทำครั้งเดียวแล้วจบ” ผู้นำยุคใหม่เชื่อในความสำเร็จจากการทดลองและปรับปรุงเรื่อยๆ ต้องสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตลอดเวลา
ตัวอย่าง : รีด เฮสติงส์ (Reed Hastings) แห่ง Netflix ที่พาองค์กรเปลี่ยนจากการเช่าดีวีดี ไปสู่สตรีมมิ่ง ซึ่งเป็นการตัดสินใจลงทุนหนักแม้ตลาดยังไม่แน่นอน และกลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก
5. เข้าใจคนก่อนแก้ปัญหา (Empathy & People-Centric Solutions)
บางครั้งปัญหาคือความรู้สึกของคนในทีม ไม่ใช่เรื่องเทคนิค ผู้นำที่เข้าใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ฟังและเข้าใจความต้องการ จะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ตัวอย่าง : ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) แห่ง Starbucks ฟังพนักงานเรื่องแรงงานและสภาพแวดล้อม จากนั้นปรับนโยบายจนพนักงานมีความพึงพอใจสูง
6. ตัดสินใจโดยยึดข้อมูลมากกว่าอารมณ์ (Data-Driven Decision Making)
ผู้นำที่เน้น “ข้อมูล (data)” มากกว่าความรู้สึกส่วนบุคคล มักใช้ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ วิเคราะห์โอกาส-ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีขนาดใหญ่หรือธุรกิจที่ต้องแม่นยำ
ตัวอย่าง : ซุนดาร์ พิไค (Sundar Pichai) CEO แห่ง Google ที่ใช้ข้อมูลจากการทดลอง A/B Testing และ Insight ของผู้ใช้ ก่อนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี