9 กลยุทธ์ดึงคนให้อยู่กับองค์กร เรื่องด่วนๆที่ Boss ต้องรู้!






     เพราะทุกธุรกิจต้องอาศัยคนในการทำงาน ผู้บริหารจึงต้องอาศัยทั้งศาสตร์ นั่นคือเรื่องของการทำงานอย่างมีระบบ (Science) และศิลปะในการเข้าใจถึงพื้นฐานของมนุษย์ (Art) ในการบริหารงาน โดยไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แล้วกลยุทธ์แบบไหนกันที่เรียกว่าแข็งแกร่งและสามารถดึงคนที่ทั้งเก่งและดีให้อยู่กับองค์กรได้ ลองมาฟังคำแนะนำจาก เนตรา เทวบัญชาชัย อาจารย์ประจำสาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ถึงเรื่องนี้กันดีกว่า
 

1. คิดบวก

     คนที่ทำธุรกิจ ก่อนอื่นต้องเป็นคนคิดบวกหรือมี positive thinking กับคนก่อน เพราะทุกธุรกิจ คือธุรกิจคน ดังนั้น ผู้บริหารต้องมีความเชื่อมั่นว่าคนทุกคนต้องการเป็นคนเก่ง ต้องการเป็นคนดี และเชื่อมั่นว่าพนักงานทุกคนต้องการที่จะได้รับการยอมรับ โดยต้องการเงินเดือนในระดับหนึ่ง และมีเป้าหมายในชีวิตส่วนตัว
 

2. มีภาวะผู้นำ

     แน่นอนว่าการบริหารงานและบริหารคนต้องอาศัยความเป็นผู้นำ ผู้บริหารที่ดีต้องกล้าที่จะตัดสินคน กล้าที่จะบอกถูกผิดในเรื่องงาน กล้าที่จะฟีดแบคทุกวันและต้องไม่เหนื่อยเกินไปที่จะพูด นอกจากนี้ คนเป็นผู้นำต้องยิ้มเก่ง ยิ้มได้กับทุกคนแม้ไม่รู้จัก คนเป็นผู้นำต้องแสดงความมั่นใจ แต่งตัวดีไม่ใช่แต่งตัวแพง เป็นผู้นำอย่าลากรองเท้าแตะมาทำงาน เพราะพนักงานจะเลียนแบบ อย่าแต่งตัวสบายเกินไป ทำตัวสบายเกินไป อย่าเข้างาน 11 โมงแล้วให้พนักงานเข้า 8 โมง ต้องบาลานซ์ตรงนี้ให้ได้แล้วการทำงานจะมีความราบรื่นและบริหารคนได้ดี
 




3. มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจน


     การบริหารบุคลากรเหมือนการบริหารคนในครอบครัว ครอบครัวใดที่ไม่เคยพูดถึงเป้าหมายเลย ครอบครัวนั้นจะมีความมุ่งมั่นทั่วๆไป ทำไปเรื่อยๆตามความรู้ความสามารถ แต่หากเราเป็นพ่อแม่ที่มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ส่วนใหญ่ลูกก็จะเดินรอยตามได้ค่อนข้างดี เพราะฉะนั้นการจะทำอะไรต้องมีเป้าหมาย โดยเป้าหมายต้องเป็นอะไรที่ดีและคนอยากเดินตาม ดังนั้น ผู้บริหารต้องสามารถบอกได้ว่าเป้าหมายขององค์กรคืออะไร จะเดินไปทิศทางไหน เพราะไม่มีพนักงานคนไหนอยากทำงานร่วมกับองค์กรที่ไร้ทิศทางในการทำงาน
 

4. มีการทำงานอย่างเป็นระบบ

     พนักงานส่วนใหญ่ของ SME ชอบลาออกเพราะองค์กรไม่มีระบบ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะอยู่องค์กรนี้ไปทำไม ดังนั้นทุกองค์กรต้องมีเป้าหมายและการทำงานที่เป็นระบบ (Systematic) แผนผังการทำงานและสายบังคับบัญชาต้องชัดเจนเพราะมันคือแผนที่ชีวิตของพนักงาน โดยการสั่งงานให้พนักงานทำต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น ให้ทำอะไร รายละเอียดของงานคืออะไร ส่งงานวันไหน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานที่ผิดพลาด ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบทั้งต่อตัวพนักงานและองค์กร
 

5. Job Description ต้องมี

     เพราะพนักงานทุกคนที่เข้ามาทำงานกับองค์กรคาดหวังจะรู้ว่าเขาต้องทำอะไร ซึ่ง Job Description ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อตัวองค์กรที่สามารถช่วยให้ไม่ต้องจ้างคนมากเกินไป ดังนั้นถ้าธุรกิจเล็กๆ จะทำให้เข้าใจว่าพนักงานที่เราจะจ้างนั้น จ้างมาเพื่อทำอะไร คาดหวังให้เขาทำอะไร โดยเป้าหมายของพนักงานในการทำงานแต่ละวันต้องชัดเจน
 


6. อย่าถามหาเด็กฝาก

     เพราะการคัดสรรเลือกคนเข้ามาทำงานในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ SME ส่วนใหญ่มักถามหาเด็กฝากและเลือกเข้ามาทำงานก่อน เป็นเพราะไม่ทราบหลักการในการเลือกคน ดังนั้นองค์กรต้องมีภาพในหัวว่า เราต้องการใคร มาทำตำแหน่งใด และจะได้รับสวัสดิการแบบไหน เวลาต้องการใครอย่าฝากหรือถามหาว่ามีเด็กคนไหนจะมาทำงานด้วยไหม เพราะคนทุกคนต้องการการยอมรับและการได้รับเกียรติจากองค์กร ถ้าองค์กรไหนสรรหาคนจากเด็กฝากเขาก็จะปฏิบัติกับองค์กรแบบนั้น
 

7. บอกข้อมูลที่ควรรู้ขององค์กร

     การจัดปฐมนิเทศถือเป็นสิ่งที่มีพลังมากในการทำให้พนักงานรู้จักองค์กรและองค์กรรู้จักพนักงาน ผู้บริหารที่ดีไม่ควรกล่าวทักทายแค่เล็กน้อย แต่ต้องให้การต้อนรับพนักงานใหม่อย่างอบอุ่น ให้ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อชีวิตของเขาในวันที่เขามาทำงานกับเรารวมถึงเรื่องสวัสดิการและกฎระเบียบ นอกจากนี้ควรมีการบอกถึงวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กรเพื่อให้พนักงานได้รับทราบและนำไปปฏิบัติตาม
 

8. สอนเต็มที่

     ปัญหาหนึ่งของ SME คือไม่อยากเทรนพนักงานมากเพราะกลัวเก่งแล้วลาออก แต่สิ่งที่องค์กรต้องคิดคือถ้าพนักงานไม่เก่งแล้วจะทำงานให้เราได้อย่างไร ดังนั้นองค์กรต้องมีการสอนงานพนักงานอย่างเต็มที่ ผู้บริหารต้องบริหารงานอย่างผู้ใหญ่ (Maturity) คือมีความใจกว้าง เต็มใจและเต็มที่ที่จะสอนให้พนักงานมีความรู้ มีการจัดอบรมและพัฒนามาตรฐานที่มีหลักการ โดยองค์กรต้องทราบว่ามีการจัดการอบรมไปเพื่ออะไร คนที่มานั่งอบรมได้ประโยชน์จริงๆหรือไม่ รวมถึงวิทยากรหรือคนที่มาเทรนต้องเป็นคนที่ไม่น่าเบื่อ พูดแล้วคนต้องอยากฟัง

 
9. เลี่ยงใช้คำว่า “รู้สึก” ในการประเมินงาน

     ในใบประเมินงานหรือการประเมินผลงานใดๆ ไม่ควรใช้คำว่า “รู้สึก” เพราะพนักงานจะมีความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมโดยทันที ความยากของ SME อย่างหนึ่งคือทำยังไงให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรหรือผู้บริหารมีความยุติธรรม แม้จะมีคนที่สนิทมากและสนิทน้อย แต่พนักงานต้องรู้สึกว่าท่านเป็นคนยุติธรรม เพราะหลายๆครั้งที่การเลือกที่รักมักที่ชังของผู้บริหาร พอรักใครมากก็เห็นใจคนนั้นมากเป็นเหตุให้พนักงานคนอื่นอาจไม่พอใจนำไปสู่ปัญหาและการลาออกของพนักงาน ดังนั้นผู้บริหารต้องมีศิลปะในการทำความเข้าใจและเห็นใจในเรื่องพื้นฐานของความรู้สึกของมนุษย์ (Empathy) นอกจากนี้หากพนักงานอยู่ภายใต้การบริหารงานของใครอย่าไปก้าวก่ายอำนาจกัน ต้องแยกแยะความสนิทออกจากเรื่องการทำงาน นโยบายที่ใช้กับทุกคนต้องใช้กับทุกคน หากมีข้อยกเว้นต้องมีเหตุผลและอธิบายได้     
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร