​8 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อทำธุรกิจที่บ้าน




แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆที่ใช้บ้านเป็นที่ทำงาน แต่เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างราบรื่น 8 สิ่งต่อไปนี้ คือสิ่งที่คุณไม่ควรทำ

    1.ใช้เวลาในบ้านมากเกินไป : ความโดดเดี่ยว คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทำงานที่บ้าน ดังนั้น ควรออกไปพบปะผู้คนหรือเลือกประชุมงานในร้านกาแฟบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานและได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น

    2.ไม่กำหนดตารางเวลาทำงาน : การใช้เวลาทำงานทั้งวันทั้งคืน จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ฉะนั้น ควรกำหนดตารางเวลาทำงานให้ชัดเจน โดยใน 1 วัน ไม่ควรทำงานเกิน 7 ชั่วโมง

    3.ใช้โทรศัพท์ตอนทำงาน : การทำงานที่บ้านคุณคือนายตัวเอง และเมื่อไม่มีเจ้านายคอยเพ่งเล็ง การคุยโทรศัพท์กับเพื่อนขณะทำงานจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ซึ่งนั่นจะส่งผลให้เสียสมาธิในงานที่ทำ

    4.ไม่คุยปัญหาธุรกิจกับคนในครอบครัว : พยายามติดต่อและสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ทำธุรกิจที่บ้านคนอื่นๆ เพราะบางครั้งคนในครอบครัวอาจเบื่อที่จะคุยเรื่องธุรกิจด้วย เพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมัน

    5.ยึดพื้นที่ทั้งหมดในบ้าน : คุณไม่ควรกันพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านไว้เพื่อทำงาน จนไม่เหลือพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน

    6.ไม่มีกฎภายในบ้าน : ในกรณีที่คุณมีทีมงาน คุณควรตั้งกฎว่าสิ่งใดที่พนักงานทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งนั่นจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับบ้านของคุณได้

    7.ไม่จัดระเบียบพื้นที่ทำงาน : อย่าเกียจคร้านกับการจัดระเบียบและทำความสะอาดพื้นที่ทำงาน ทั้งนี้ การเพิ่มแสงสว่างและการตกแต่งห้องทำงาน จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากรักษาความสะอาดอีกด้วย

    8.ไม่วางแผนการทำงาน : หากไม่วางแผนว่าแต่ละวันควรทำอะไร คุณจะเสียเวลาหนึ่งวันไปแบบไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้น ควรกำหนดระยะเวลางานของแต่ละงานให้ชัดเจน และเผื่อเวลาเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

แปลและเรียบเรียงจาก www.entrepreneur.com

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย