กลเม็ด...รักษาคน (เก่ง) อยู่กับองค์กร

 
 
 เรื่อง : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
         apiwut@riverorchid.combook.com/OrchidSlingshot
 
 
หลายองค์กรที่มีโอกาสเข้าไปให้คำปรึกษาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีปัญหาที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ การรักษาคนเก่ง คนดีให้อยู่กับองค์กรไปนานๆ ถึงแม้ปัญหาจะเหมือนกันแต่รายละเอียดกลับต่างกันไปในแต่ละองค์กร วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การหาสาเหตุของปัญหาให้เจอก่อน
 
แนวทาง 3 อย่างที่องค์กรควรทำ ได้แก่ สำรวจความพึงพอใจของพนักงาน (Employee Satisfaction Survey) เพื่อวัดดูระดับความสุขของพนักงานที่ยังอยู่ สำรวจความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement Survey) เพื่อประเมินว่ามีใครที่เริ่มคิดจะจากไปบ้างหรือยัง และสอบถามสาเหตุที่ลาออก (Exit Interview) เพื่อค้นหาเหตุผลจากที่คนตัดสินใจจากไปแล้ว
 
ผลจากการสำรวจและสอบถาม มักพบว่าต้นตอของปัญหาส่วนใหญ่มาจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ ปัจจัยดึงจากภายนอกองค์กร (Pull Factor) เช่น การถูกซื้อตัว เพื่อนที่ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ชักชวน เป็นต้น ปัจจัยนี้ควบคุมได้ยาก โอกาสที่จะหาทางป้องกันให้ได้ผลมีน้อย หากองค์กรสูญเสียพนักงานเก่งๆ ไป เพราะถูกซื้อตัวหรือถูกดึงจากภายนอก ก็คงทำอะไรได้ไม่มากนอกจาก “ทำใจ” แต่ปกติหากแรงดึงจากภายนอกไม่มากพอและไม่มีปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งเสริมแรง คือ ปัจจัยดันจากภายในองค์กร (Push Factor) พนักงานมักไม่ลาออกทันทีที่ถูกดึงตัว
 
องค์กรควรให้ความสำคัญและสนใจกับปัจจัยดันภายในองค์กรมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมและบริหารจัดการได้ ที่ผ่านมาพบว่าปัจจัยดันจากภายในองค์กร มีต้นตอมาจากประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้
 
ความไม่ยุติธรรม หมายถึง การแบ่งก๊กแบ่งเหล่า เล่นพรรคเล่นพวก มีเด็กของคนนั้น พวกของคนนี้ ในองค์กร ซึ่งส่งให้พนักงานบางกลุ่มได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าบางกลุ่ม
ผลตอบแทนไม่เหมาะสมกับความรับผิดชอบ ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่เงินเดือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโบนัสและสวัสดิการต่างๆ ด้วย ผลตอบแทนที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับงานที่ทำและกับองค์กรอื่นๆ ทำให้คนตัดสินใจลาออกได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีฝีมือ
 
ความคาดหวังที่ไม่ชัดเจน หากพนักงานไม่รู้ว่าเป้าหมายในการทำงานของตนคืออะไร องค์กรคาดหวังอะไรในตัวเขา งานที่ทำมีความสำคัญและมีส่วนส่งเสริมเป้าหมายใหญ่ขององค์กรได้อย่างไร ก็ทำให้ความรู้สึกผูกพันกับองค์กรลดต่ำลง
 
มองไม่เห็นโอกาสในความก้าวหน้า การที่พนักงานมองไม่เห็นหนทางที่จะเติบโตต่อไปในหน้าที่การงานของตนเอง เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนลาออก ทั้งนี้ เพราะพนักงานส่วนใหญ่เข้าใจว่าความก้าวหน้าหมายถึงการเติบโตในแนวดิ่งเท่านั้น (การเติบโตตามสายงาน เช่น พนักงานขายก็คิดว่าการเติบโต คือ การได้เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย เป็นต้น) แต่พวกเขาลืมคิดไปว่าความก้าวหน้ายังหมายถึงการเติบโตแนวราบ (การได้รับผิดชอบงานในขอบเขตที่กว้างขึ้นกว่าเดิม) หรือการเติบโตแนวทะแยง (การเติบโตข้ามสายงาน) ก็ได้ด้วย
 
ขาดการสื่อสารที่ดี หมายถึงบรรยากาศขององค์กรที่ไม่ค่อยมีการพูดคุยกัน พนักงานไม่ค่อยรับรู้ข่าวคราวอะไร หรือถ้ารู้ก็รู้มาจากคนอื่นภายนอกองค์กรเสียเป็นส่วนใหญ่ ในองค์กรเต็มไปด้วยข่าวลือที่สร้างความอึมครึมและบรรยากาศในเชิงลบ
 
การไม่รับฟังความคิดเห็น หากหัวหน้างานหรือผู้บริหารในองค์กร ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน หรือเลือกฟังแต่สิ่งที่อยากฟัง ย่อมทำให้บรรยากาศภายในองค์กรค่อนข้างเคร่งเครียด พนักงานต้องระมัดระวังที่จะพูดหรือไม่พูดอะไร เพราะเกรงว่าจะไม่ถูกใจผู้บริหารหรือไม่ก็อาจรู้สึกว่าพูดไปก็ป่วยการ นิ่งเสียตำลึงทอง แบบนี้ก็ทำให้คนลาออกได้เหมือนกัน
 
ความเครียด ความกดดันในการทำงานที่มากเกินไป หลายๆ องค์กรให้ความสำคัญกับความสำเร็จในเชิงตัวเลขและเป้าหมายเพียงอย่างเดียว โดยลืมคิดไปว่าพนักงานไม่ใช่เครื่องจักรที่ต้องการแต่ไฟฟ้าหรือน้ำมันในการทำงาน พวกเขาต้องการความเป็นคน ซึ่งมีชีวิตจิตใจ อยากได้ความรักความเข้าใจและการเอาใจใส่มากกว่าแค่ให้เงินและทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายเท่านั้น
 
ความเข้มงวดในระเบียบมากจนเกินไป กฎกติกาเป็นสิ่งจำเป็นในการอยู่ร่วมกัน แต่การเข้มงวดในกฎระเบียบที่หยุมหยิมจนเกินไป กลับทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง องค์กรจะมีแต่บรรยากาศการจับผิดตลอดเวลา
 
ไม่มีการพัฒนาให้ความรู้ พนักงานหลายคนโดยเฉพาะคนเก่งๆ ที่มีศักยภาพ มักทำงานเพราะหวังอยากได้เรียนรู้ด้วย หากองค์กรไม่มีการส่งเสริมเรื่องการพัฒนาความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พนักงานบางคน ตัดสินใจไปหาที่ทำงานใหม่ที่คิดว่าจะมีโอกาสได้รับการพัฒนามากขึ้น
 
ลองสำรวจในองค์กรดูสิครับว่าปัญหาเหล่านี้ เริ่มก่อตัวขึ้นบ้างหรือยัง หากพบแต่เนิ่นๆ และรีบจัดการซะก่อน ก็จะช่วยลดปัจจัยดันภายในองค์กรลงอย่างได้ผล
 
        อย่างคำโบราณว่า ยังจริงเสมอในทุกยุคทุกสมัย “กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน”
 
 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร