วิดีโอ กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ แต่จะเห็นได้ว่า ช่วงหลังๆ มานี้วิดีโอจะถูกใส่คำบรรยาย หรือ Subtitle ไว้ให้คนได้อ่านประกอบการดูไปด้วย ทั้งๆ ที่วิดีโอก็มีเสียงอยู่แล้ว อยากรู้ไหมว่า ทำไมถึงต้องใส่ Subtitle ไว้นี่คือ เหตุผลที่หลายคนอาจยังไม่รู้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ยินเสียง
อย่าลืมว่าบนโลกใบนี้ยังมีบุคคลอีกมากที่ไม่สามารถได้ยินหรือมีภาวะบกพร่องทางการได้ยินอยู่ด้วย ดังนั้นการใช้ Subtitle หรือคำบรรยายประกอบในวิดีโอจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ได้
หลายคนไม่นิยมเปิดเสียงตอนดู
รู้หรือไม่ว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของวิดีโอบนเฟซบุ๊กนั้นถูกรับชมแบบไม่เปิดเสียง นอกจากนี้หลายคนมักนิยมที่จะดูวิดีโอแบบไม่มีเสียงทั้งบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ในขณะที่บางคนเลือกที่จะเปิดเสียงเพื่อดูวิดีโอของเพลงที่ตัวเองชอบ อีกทั้งการอยู่ในที่สาธารณะหรือสถานที่ที่งดเสียงรบกวนเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนไม่นิยมเปิดเสียงเวลาดู
เพิ่มความเข้าใจ
เพราะคนเรามีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป บางคนอาจมีการรับรู้จากภาพได้ดี ในขณะที่บางคนจะเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นหากได้อ่านคำอธิบายซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คำบรรยายของวิดีโอมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในความเป็นจริงมีคนจำนวนมากที่ชอบดูวิดีโอที่มีซับไตเติ้ลแม้จะไม่จำเป็นหรือแม้ว่าตัวเองจะเป็นเจ้าของภาษานั้นๆก็ตามเพื่อการเข้าใจที่มากขึ้นนั่นเอง
ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดภาษาเดียวกันกับคุณ
หากคุณต้องการให้คนทั่วโลกดูวิดีโอแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น คำบรรยายหรือซับไตเติ้ลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แม้ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ภาษาจีนก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน ในขณะที่บางส่วนก็มีการใช้ภาษาสเปน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำวิดีโออะไรออกมาสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของภาษาที่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายของคุณนั้นใช้อยู่ การทำคำบรรยายจึงควรทำหลายภาษาเพื่อเข้าถึงคนได้หลากหลายกลุ่ม
เพิ่ม engagement กับคนดู
จากการรายงานของ PLYMedia ในปี 2552 พบว่า กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชมดูวิดีโอจนจบเมื่อมีคำบรรยายอยู่ด้วย ซึ่งถือเป็นอีกวิธีดึงดูดและเพิ่ม engagement กับคนดู
เพิ่มการค้นหาบนโลกโซเชียล
Instapage รายงานว่า วิดีโอที่มีคำบรรยายบนเฟซบุ๊กจะได้รับการค้นหามากกว่าวิดีโอธรรมดาถึง 16 เปอร์เซ็นต์ และยังได้รับการแชร์และมีคนคลิ๊กเข้าดูมากกว่าอีกด้วย
ช่วยเรื่อง SEO
คำบรรยายในวิดีโอสามารถช่วยเพิ่มอันดับในการค้นหาของแบรนด์คุณได้ เพราะยิ่งคนใช้เวลาในการดูวิดีโอมากเท่าไรยิ่งเพิ่ม Dwell Time หรือระยะเวลาตั้งแต่ยูสเซอร์คลิกที่ผลการค้นหาเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ อ่านเนื้อหาที่อยู่ในเว็บไซต์ แล้วคลิกปุ่ม Back กลับไปยังหน้าผลการค้นหาอีกครั้ง พูดง่ายๆมันคือเวลารวมทั้งหมดตั้งแต่คลิกเข้าเว็บไซต์จนกด Back กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
