เจาะ 4 พฤติกรรมผู้ซื้อ ที่ผู้ประกอบการควรรู้



 


เรื่อง กองบรรณาธิการ


    ในวันนี้ต้องยอมรับว่าเฟซบุ๊กได้กลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของผู้ใช้งานอี-คอมเมิร์ซ ที่แซงหน้าช่องทางอื่นๆ ที่ผู้บริโภคใช้ในการเข้าถึงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการค้นหาข้อมูลและการบอกต่อแบบปากต่อปาก  

    ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นช่องทางอันดับ 1 ของการซื้อสินค้าบนมือถืออีกด้วย ซึ่งด้วยจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในประเทศไทยถึง 30 ล้านคนต่อเดือน  ย่อมแสดงให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลที่ผู้ประกอบการจะสามารถใช้เฟซบุ๊กในการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี
 
    อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักชิ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อแรกเจอในทันที แต่เส้นทางของนักช้อปปิ้งที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก คือการค้นพบสินค้าผ่าน new feed  จากนั้นก็ลงมือค้นหาข้อมูลและพิจารณา  แล้วจึงตัดสินใจคลิก Page Post Link เพื่อไปสั่งซื้อบนเว็บไซต์หรือสั่งซื้อทาง Messenger

   และสุดท้ายเมื่อถูกใจในสินค้าหรือบริการก็จะสนับสนุนต่อด้วยการโพสต์รีวิวสินค้าบน Timeline ดังนั้น หากคิดจะขายของบนเฟซบุ๊กก็ต้องจับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละขั้นตอนด้วย
  
    1. การค้นพบ จากการสำรวจของ TNS ประเทศไทย พบว่ามีถึง 92 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามทีเดียวที่ใช้เฟซบุ๊กทุกวัน และ 1 ใน 4 นั้น ค้นพบสินค้าครั้งแรกบนเฟซบุ๊ก ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจึงต้องพยายามเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบน new feeds อยู่ตลอดเวลา

    2. การค้นหาข้อมูล โดย 70 เปอร์เซ็นต์จะค้นคว้าหาข้อมูลบนออนไลน์ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าหนึ่งชิ้น ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเฟซบุ๊กมีอิทธิพลมากที่สุด ดังนั้น จึงควรเสนอข้อมูลด้วยอัลบั้มรูปภาพ วิดีโอ  เชื่อมโยงอินสตาแกรมและเว็บไซต์

    ทั้งนี้ มีผลสำรวจเพิ่มเติมว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และมีการค้นคว้าข้อมูลสินค้าขณะอยู่ในร้านค้าด้วย โดยสมาร์ทโฟนเป็นตัวเลือกที่นิยมสูงสุดสำหรับใช้ในการค้นหาสินค้าและค้นคว้าข้อมูล ไปจนถึงการชำระเงินซื้อสินค้า

    3. การพิจารณา พบว่า 41 เปอร์เซ็นต์ ซื้อสินค้าภายใน 30 วัน  (หมวดจองการท่องเที่ยว) ดังนั้น จึงควรให้เวลาลูกค้าตัดสินใจ โดยทำการ retarget  ระหว่างช่วงพิจารณา และส่งสารด้วยข้อความกระตุ้นการตัดสินใจ 

    4. การตัดสินใจ โฆษณาบนเฟซบุ๊กเพจของแบรนด์ หรือความคิดเห็นเชิงบวกและแชร์ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนไทยตัดสินใจซื้อสินค้า  ดังนั้น ควรเพิ่มคอนเทนต์ ในลักษณะรีวิวสินค้า  ทำโฆษณานำเสนอโปรโมชั่น ปิดการขายพร้อมปุ่มคลิกไปยังเว็บไซต์ ที่สำคัญ ลูกค้าชาวไทยชอบแสดงความคิดเห็นและถามคำถามผ่านเฟซบุ๊กจึงควรให้ความสำคัญในการดูแลเพจเพื่อการตอบคำถามที่รวดเร็วและทันท่วงที

SME Thailand เพื่อนคู่คิด ธุรกิจเอสเอ็มอี
ติดตามข้อมูลดีๆ เพื่อ SME ได้ที่ www.smethailandclub.com

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตแค่ไหนก็เกิดได้! 4 ธุรกิจที่โตในวันที่ตลาดเงียบ

ใครว่าทำธุรกิจในวิกฤตไม่ได้? มาดูกันว่าแบรนด์ดังระดับโลก 4 รายนี้ มองเห็นอะไรในวันที่ตลาดเหมือนเป่าสาก พร้อมบทเรียนที่คุณสามารถนำไปต่อยอดได้จริง

Snack War! เกมธุรกิจขนมขบเคี้ยวไทยในตลาดหมื่นล้าน

แม้ใครๆ จะคิดว่าธุรกิจขนมเป็นเรื่องเบาๆ แต่ในความจริงการแข่งขันเข้มข้นไม่แพ้ธุรกิจอื่น โดย ปี 2568 ตลาดขนมขบเคี้ยวไทยยังเติบโต แต่ช้าลง ขนมแบบไหนกำลังมา?อะไรคือความเสี่ยงที่ธุรกิจต้องเผชิญ ตามไปอ่านกัน