Text: Neung Cch.
ทำสินค้าดี บริการไว ราคาแข่งขันได้ แต่ทำไมลูกค้ายังไม่ผูกพัน?
ธุรกิจมากมาย “ขายได้” แต่กลับ “ไม่ได้ใจ” และเติบโตได้เพียงระยะสั้น
ในขณะเดียวกัน กลับมีแบรนด์บางเจ้า ที่คนพร้อมจ่าย แถมยังรักและจดจำ เพราะพวกเขาไม่ได้แค่ขายของดี แต่ขาย “จุดยืน” ที่ลูกค้ารุ่นใหม่อยากสนับสนุน
นี้คือ 3 โมเดลธุรกิจหัวใจใหญ่ ที่ไม่ได้แค่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค...แต่กำลังเปลี่ยนโลกใบนี้ และกำลังสร้างอนาคตธุรกิจแบบใหม่ไปพร้อมกัน
3 โมเดลธุรกิจที่เติบโตได้เพราะกล้าให้
1. ให้ความโปร่งใส = ได้ความเชื่อใจ
แบรนด์: Allbirds | รองเท้าจากธรรมชาติที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
Allbirds ไม่ได้ขายแค่รองเท้า แต่ขายแนวคิด “เบาสบายโดยไม่หนักโลก”
แบรนด์นี้ใช้แนวทางวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ตั้งแต่วัสดุ แหล่งผลิต ไปจนถึงจุดสิ้นสุดการใช้งาน และเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้กับผู้บริโภคอย่างโปร่งใส
พร้อมกันนั้น Allbirds ยังคิด "ภาษีคาร์บอน" ให้ตัวเอง โดยชดเชยคาร์บอนทุก 10 กิโลกรัมด้วยเงิน 10 เซนต์ที่นำไปปลูกต้นไม้หรือสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนทั่วโลก
ความโปร่งใสนี้กลายเป็นจุดแข็งด้านความเชื่อใจของผู้บริโภค จนทำให้ Allbirds เข้าตลาดหุ้น NASDAQ ในปี 2021 ด้วยมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท และกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่คนรุ่นใหม่เลือกสนับสนุนด้วยใจ
2. ให้กำไร = ได้หัวใจคน
แบรนด์: Who Gives A Crap | กระดาษชำระที่เปลี่ยนโลกได้จริง
แม้ชื่อแบรนด์จะฟังขำ แต่พันธกิจของ Who Gives A Crap จริงจังอย่างยิ่ง โดยนำ 50% ของกำไรทั้งหมดไปสร้างห้องน้ำให้ชุมชนด้อยโอกาสทั่วโลก
ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2012 แบรนด์ได้บริจาคไปแล้วกว่า 13 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยในปีเดียวช่วงโควิด 2020 ก็ทำยอดบริจาคได้สูงถึง 5.85 ล้านดอลลาร์ฯ เมื่อผู้คนแห่กักตุนกระดาษทิชชู ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 40 เท่า และมีคำสั่งซื้อรอจัดส่งมากกว่า 500,000 รายการ
สิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ไม่ใช่แค่คุณภาพสินค้า หรือแพ็กเกจดีไซน์สดใส แต่คือความรู้สึกว่า “การซื้อแต่ละครั้ง ช่วยเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนจริงๆ”
3. ให้โอกาส = ได้ความยั่งยืน
แบรนด์: Bombas | ถุงเท้าที่มอบอีกคู่ให้คนไร้บ้าน
โมเดล “Buy One, Give One” ของ Bombas ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย แต่คือพันธกิจหลักของแบรนด์
ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อถุงเท้า 1 คู่ อีก 1 คู่จะถูกบริจาคให้กับผู้ไร้บ้าน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ต้องการถุงเท้ามากที่สุดในศูนย์พักพิงทั่วสหรัฐฯ
คำถามคือ: แล้วแบรนด์จะอยู่รอดได้อย่างไร?
คำตอบคือ พวกเขาออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ “คุ้มค่าสมราคา” ด้วยวัสดุคุณภาพสูง สวมใส่สบาย ทนทาน พร้อมบริการลูกค้าระดับมืออาชีพ
จากธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้นในรายการ Shark Tank วันนี้ Bombas มียอดขายสะสมกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของรายการ
การให้ ไม่ใช่ภาระ แต่คือพลังของแบรนด์ในยุคใหม่
แบรนด์ทั้ง 3 นี้คือหลักฐานว่า “การให้” ไม่ใช่ภาระต้นทุน แต่คือกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวที่ทรงพลัง เพราะผู้บริโภควันนี้ไม่ได้เลือกเพียงสินค้าที่ดี แต่เลือก “ความดี” ที่เขาอยากสนับสนุนด้วยเงินของตัวเอง และหากคุณกำลังมองหาแนวทางสร้างแบรนด์ในโลกหลังยุคโควิด การแข่งขันราคาอาจไม่ใช่คำตอบ
บางทีจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด…อาจคือการถามตัวเองว่า
“ธุรกิจของเราจะ ‘ให้’ อะไรกับโลกนี้ได้บ้าง?”
บางทีสูตรลับแห่งการเติบโต อาจเริ่มต้นจาก “การให้” ก็ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี