กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า ภายใต้คอนเซป Team Thailand+ สร้างความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่าย ‘รัฐ+เอกชน+ประชาชน’ เสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันเผชิญความท้าทายเศรษฐกิจโลกอนาคต โอกาสนี้ ขอขอบคุณประธานอาวุโสหอการค้าไทยฯ คุณสนั่น ที่ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ช่วยสนับสนุนภารกิจกรมฯ ทั้งด้านการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกธุรกิจ SMEs และการยกระดับความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทยและสร้างความเชื่อมั่นต่อแวดวงธุรกิจ
อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “วันที่ 17 เมษายน 2568 ได้พบหารือเพื่อสวัสดีปีใหม่ไทยและแสดงความขอบคุณ ‘นายสนั่น อังอุบลกุล’ ประธานอาวุโสหอการค้าไทย ที่ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 25 ได้ให้การสนับสนุนภารกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นอย่างดี โดยกิจกรรมที่ทั้งสองหน่วยงานดำเนินการร่วมกันได้ส่งผลลัพธ์เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและเป็นประโยชน์แก่ภาคธุรกิจไทย ทั้งด้านการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจและการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการไทย ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยอาศัยกลไกการมีส่วนร่วมและเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณนายสนั่น อังอุบลกุล ที่ให้การสนับสนุนภารกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกด้าน โดยเฉพาะการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้สามารถรับมือกับความท้าทายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยกิจกรรมที่กรมฯ และ หอการค้าไทย ได้ร่วมกันดำเนินงานประสบความสำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมหลายโครงการ เช่น การส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ผ่านการส่งเสริมบทบาทและเครือข่ายสมาคมการค้าเพื่อพัฒนาสมาชิกสมาคมและหอการค้าให้มีความเข้มแข็ง การจัดกิจกรรมประกวดสมาคมการค้าดีเด่นที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี การส่งเสริมธุรกิจครอบครัว ผ่านการให้ความรู้ด้านการจัดทำธรรมนูญครอบครัวเพื่อการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น ประชาสัมพันธ์โครงการ/กิจกรรมต่างๆ ของกรมฯ เช่น การส่งเสริมการค้าออนไลน์ ทำให้แนวทางการส่งเสริมตอบโจทย์และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น การอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจผ่านการขับเคลื่อน Ease of Doing Business ของประเทศ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงาน ก.พ.ร. และ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐกว่า 22 หน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการท่องเที่ยว เป็นต้น ได้ร่วมกันประกาศ “ไม่เรียกเอกสาร ลดภาระ ลดซ้ำซ้อน” ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคล จึงไม่ต้องเรียกเอกสารจากภาคเอกชนซ้ำอีก ถือเป็นการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทาง และค่าธรรมเนียมการขอเอกสารนิติบุคคล ได้กว่า 7,100 ล้านบาทต่อปี การปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและลดต้นทุนผู้ประกอบการ เช่น พระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 และการแก้ไขกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. 2509 เพื่อยกเลิกค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต การจดทะเบียนแก้ไขหรือเพิ่มเติมต่างๆ การยกระดับธรรมาภิบาลธุรกิจไทย ร่วมกำหนดเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจเพื่อใช้ในการประเมินธุรกิจ และพิจารณาผลการตรวจประเมินเพื่อเสนอรายชื่อธุรกิจที่สมควรได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมฯ ซึ่งปัจจุบัน มีธุรกิจได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมฯ จำนวน 249 ราย
อธิบดีอรมน เสริมว่า ในโอกาสนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ที่เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 26 รับไม้ต่อจากนายสนั่น อังอุบลกุล ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพร้อมทำงานร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย ภายใต้คอนเซป Team Thailand+ สร้างความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่าย ‘รัฐ+เอกชน+ประชาชน’ ซึ่งในปีนี้ จะมีการดำเนินกิจกรรม/โครงการใหม่ๆ ร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยรับมือกับความท้าทายของเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI, Robot มาสนับสนุนห่วงโซ่บริหารจัดการธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน การส่งเสริมความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยสร้างสรรค์นวัตกรรมและโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต ไม่ให้ธุรกิจไทยตกเทรนด์ธุรกิจโลก การผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยก้าวสู่โมเดลธุรกิจ ESG ที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เป็นต้น”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี