ผู้บริโภคยุคใหม่ล้วนให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า การขออย.จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงไม่ใช่แค่เรื่องของข้อกฎหมาย แต่เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้า หากผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่ในหมวดอาหาร ยา เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ การยื่นขออนุญาตกับอย.ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำไมการขออย.ถึงมีความสำคัญ ?
การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับอย. ไม่เพียงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นด่านแรกที่แสดงให้เห็นว่าสินค้านั้นผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากภาครัฐแล้ว การมีเลขทะเบียนอย.กำกับอยู่บนฉลากสินค้า จึงเป็นการการันตีคุณภาพที่สำคัญในสายตาผู้บริโภค
นอกจากนี้ การจดทะเบียนอย. ยังช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต เช่น การถูกเรียกคืนสินค้า การถูกปรับ หรือการถูกดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของธุรกิจได้อย่างรุนแรงได้
สินค้าที่ต้องได้รับการอนุญาตจากอย.ก่อนวางจำหน่าย
โดยทั่วไป สินค้าที่ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนหรือแจ้งต่อสำนักงานอย. ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
- อาหารเสริม
- ยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ
- เครื่องสำอาง
- เครื่องมือแพทย์
- วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน
- ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ เช่น น้ำยาบ้วนปาก ยาฆ่าเชื้อ
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขออย.
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการขออย.เป็นไปอย่างราบรื่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเอกสารพื้นฐานที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมเพื่อนำไปขึ้นทะเบียนอย. ได้แก่
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์ เช่น ส่วนประกอบ สูตรการผลิต และกระบวนการผลิต
- รูปแบบฉลากสินค้าที่จะใช้จริง
- เอกสารรับรองมาตรฐานสถานที่ผลิต เช่น GMP, HACCP (ถ้ามี)
- แผนผังการผลิตและการเก็บสินค้า
- เอกสารรับรองแหล่งที่มาของวัตถุดิบ (กรณีใช้วัตถุดิบนำเข้า)
โดยผู้ประกอบการสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารที่ใช้และขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานอย. หรือระบบ e-Submission ที่เปิดให้ยื่นคำขอแบบออนไลน์
ขั้นตอนการขออย.ที่ควรรู้
1. เตรียมเอกสารและตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ให้พร้อม
2. ยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานอย.
3. รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล และอาจมีการนัดตรวจสถานที่ผลิต
4. หากผ่านการประเมิน จะได้รับใบรับรองหรือเลขทะเบียนอย.
5. นำเลขทะเบียนอย.มาแสดงบนฉลากสินค้า อย่างถูกต้องตามที่กำหนด
ระยะเวลาในการดำเนินการขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์และความพร้อมของเอกสาร ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน
กล่าวได้ว่าการขออย. เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม ไม่เพียงแต่เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่น และสร้างมาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ การเตรียมพร้อมตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยในระยะยาว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี