น้อยคนนักที่จะรู้จักตัวเองและรู้ว่าเราต้องการอะไร หลายคนเสียเวลาหลายปีไปกับการเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจบออกมาแล้วเคว้งคว้าง ต่างจากสาวน้อยคนหนึ่งที่รู้ตัวเองทันทีตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาหวิทยาลัยว่านี่ไม่ใช่ที่ของเธอ
สองปีกว่าที่เราใช้ชีวิตอยู่กับไวรัสโควิด-19 “New Normal” คือ คำฮิตคุ้นหูที่เกิดขึ้น แต่รู้ไหมในโลกของกาแฟคำๆ นี้เคยเกิดขึ้นมานักต่อนักแล้ว
เมื่อตอนนี้แพลตฟอร์ม Social Commerce ที่หลายคนนิยมอย่าง Facebook กำลังปิดกั้นการมองเห็นของเพจต่างๆ อย่างรุนแรง หลายคนจึงเริ่มขยายธุรกิจไปขายในแพลตฟอร์มอื่น
เพราะตอนนี้อาชีพเดียว รายได้ทางเดียวอาจจะไม่พออีกต่อไป หลายคนจึงต้องมีอาชีพเสริมหลังเลิกงานหรือว่า Second Job ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นคงทางการเงินมากยิ่งขึ้น
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปี 2565 นี้หน่วยงานภาครัฐได้ออกนโยบายที่เอื้อต่อการที่เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพจะได้รับการรระดมทุนจากสาธารณะได้อย่างสะดวกขึ้นและยังมีระดับขั้นที่เหมาะสมกับแต่ละขนาดธุรกิจที่แตกต่างกันตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งไปจนถึงโอกาสในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เราไปดูกันว่ามีแนวทางใดบ้าง
แมส-นันทิกร อิงครัตน์ และ ปริม-วริศรา จำปาทอง สองนักวาดที่ทำโปรเจค collaboration กันเล่นๆ เป็นเทียนหอมกลิ่นขนมเหมือนจริงออกมาขายจำนวนหลักสิบ แต่ดันกลายเป็น Viral ในทวิตเตอร์เพราะคอนเซ็ปต์เทียนที่ไม่เหมือนใคร และลายเส้นที่สุดแสนจะน่ารัก
Fics คาเฟ่สไตล์โรงหนังเก่าสำหรับ Film Lover ซึ่งทางร้านจะตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโลกของภาพยนตร์ ทางเข้าร้านจะมีตู้ถ่ายรูป Sculpicture x Fics ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง “Amélie”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Influencers คือคลื่นลูกใหม่ของการตลาดดิจิทัล แต่การทำแคมเปญ Influencers ในยุคปัจจุบัน แค่ส่งสินค้าให้คนดังโพสต์อาจไม่ได้ยอดตามที่คาดหวัง
ในฤดูฝนที่เฉอะแฉะ อาจเป็นโลว์ซีซันของที่พักหลายแห่ง แต่สำหรับ “เฮินไต” รีสอร์ตเล็กๆ กลางทุ่งนาในอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นี่คือ ฤดูทำเงินของธุรกิจ
เพราะการเข้ามาของไวรัสระบาดทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยน หนึ่งในนั้นคือการอยู่บ้านมากขึ้น สั่งอาหาร ช้อปปิ้งกันผ่านแพลตฟอร์มมากขึ้น ที่สำคัญยังเกิดเทรนด์ธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจนั่นคือ Ghost Kitchen
SCB 10X ร่วมลงทุนใน Talos บริษัทสตารท์อัพผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยนักลงทุนสถาบันในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในรอบ Series B ซึ่งสามารถระดมทุนได้ 105 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Talos มีมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นเป็น 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐขึ้นสู่ “ยูนิคอร์น”
อีกประมาณหนึ่งปีที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีการเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมทั้งส่งเสริมให้มีการนำพลาสติกกลับมารีไซเคิล