NIA จับมือ UNIDO เปิดเวทีหนุนสตาร์ทอัพเชื่อมองค์กร ลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีต

     สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNIDO เปิดตัวโครงการ “Innovation Acceleration Programme for Decarbonization of the Cement and Concrete Industries” เพื่อขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยให้เร่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้ามาช่วยในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน 

     โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการ “การลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีตในประเทศไทย” ที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 8 ล้านดอลลาร์แคนาดา จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของแคนาดา หรือ ECCC ซึ่งมุ่งหมายที่จะเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต ทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการเงินเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันพัฒนากลยุทธ์การลดคาร์บอนที่เป็นรูปธรรม สามารถสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ของประเทศไทยให้เป็นจริง และนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

     ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นกลไกสำคัญที่ NIA ร่วมกับ UNIDO เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการสนับสนุนสตาร์ตอัพ ผู้ประกอบการ และนักวิจัยที่มีผลงานวิจัยที่ระดับความพร้อมด้านเทคโนโลยี (Technology Readiness Level หรือ TRL) ระดับ 6 ขึ้นไป ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์ คอนกรีต และก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยให้สตาร์ตอัพเข้าใจความต้องการเชิงลึกของภาคอุตสาหกรรม และมีโอกาสได้นำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง เพื่อให้สามารถปรับโมเดลธุรกิจให้พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นใน 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Process Improvement Technology) เทคโนโลยีด้านการรีไซเคิล/หมุนเวียนของเสีย (Waste Circular Technology) และเทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization Technology) ซึ่งจะดำเนินการผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่ 

     1. การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ตั้งแต่การคัดเลือกโซลูชันที่มีผลกระทบเชิงบวกสูง ไปจนถึงการให้คำปรึกษาทางเทคนิคเชิงลึก โดยผสานความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคเอกชน

     2. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างผู้พัฒนานวัตกรรมกับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการเทคโนโลยีการลดคาร์บอน เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการทดสอบโซลูชันในสภาพแวดล้อมจริง และสร้างความร่วมมือระยะยาวที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย และ 

     3. การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพในการสนับสนุนโครงการด้านการลดคาร์บอน เพื่อเร่งการเติบโตและขยายผลของนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง ตลอดจนการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในระดับประเทศและนานาชาติ รวมถึงโอกาสนำเสนอผลงานต่อผู้บริหารในภาคอุตสาหกรรม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุน และจับคู่ธุรกิจกับเครือข่ายพันธมิตรที่เหมาะสม พร้อมโอกาสการพัฒนาต้นแบบหรือโครงการนำร่องด้วยเงินทุนสนับสนุนจาก NIA

     รชา อับดราบู ผู้จัดการโครงการองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า UNIDO ตระหนักถึงศักยภาพของนวัตกรรมและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจ โดยมีการจัดตั้งโครงการ เช่น โครงการ Global Cleantech Innovation Programme – GCIP โดยโครงการ Innovation Acceleration Programme นี้จะเป็นการต่อยอด เพื่อเร่งสร้างผลลัพธ์ที่นำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และการมีรูปแบบธุรกิจใหม่

     สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ https://acceleratedecarbonize.nia.or.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณนิมิต นิพัทธ์ธรรมกุล ผู้จัดการพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรม โทรศัพท์: 02 - 017 5555 ต่อ 545 มือถือ : 08 9414 7411 หรืออีเมล : nimit@nia.or.th ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 มิถุนายน 2568

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

ถอดบทเรียน 15 เรื่องสำคัญ ที่ทุกองค์กรต้องปรับตัว เพื่ออยู่รอดก่อนถูกโจมตีทางไซเบอร์

การโจมตีทางไซเบอร์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้กับทุกองค์กร ซึ่งไม่ควรหยุดอยู่แค่การ “ป้องกันไม่ให้ถูกโจมตี” เท่านั้น แต่ต้องเร่งปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แล้วองค์กรจะเริ่มตรงไหนดี?

ส่อง 4 นวัตกรรม หนุนธุรกิจเกษตรไทย ให้ไปไกลกว่าเดิม

แนวโน้มเกษตรไทยในวันนี้ คือการเปลี่ยนผ่านสู่ “Smart Farming” ที่จะเปลี่ยนโฉมธุรกิจเกษตรไทยจาก “อาชีพดั้งเดิม” สู่ “ธุรกิจแห่งอนาคต” และนี่คือ 4 นวัตกรรมธุรกิจเกษตรไทย ที่กำลังพลิกวงการให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Game On... คิดแบบ ไผท ผดุงถิ่น เปิดเกมให้ SME สู้ยักษ์ใหญ่ด้วย AI

โอกาสไม่ได้อยู่ที่ขนาดธุรกิจ แต่อยู่ที่ความกล้าในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง และในวันที่ AI กลายเป็นอาวุธใหม่ของธุรกิจนั้น SME ที่กล้าก้าวก่อน ย่อมมีความได้เปรียบ ฟังมุมมองจาก ไผท ผดุงถิ่น ผู้เชื่อว่า AI คือทรัพยากรใหม่ของโลกธุรกิจ