Starting a Business

ทิ้งเงินแสนเพราะอยากปังในธุรกิจ สู่ Supersoft.bkk แบรนด์พรมตามสั่งผืนเดียวในโลก

 

Text : Yuwadi.s

     ถ้าเราเริ่มเร็วแล้วประสบความสำเร็จ เราก็จะรู้เร็วและถ้าเราล้ม เราก็จะได้รู้เร็วเช่นเดียวกัน นี่เป็นคำที่ 2 ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Supersoft.bkk ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ โดย เชน-ราเชนทร์ จันทรชัย และ อาย-ศรุดา ธนรัชต์พล ได้เริ่มต้นกันทำแบรนด์นี้เพราะมาจากเป้าหมายอันแรงกล้าของเชนที่อยากจะประสบความสำเร็จในธุรกิจบางอย่างและไอเดียการทำพรมก็เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ หลังจากที่เขาได้ขวนขวายเรียนรู้การทำพรมแบบคัสตอมมาหลายเดือนในที่สุดก็เกิดเป็นพรมที่สร้างรายได้ผืนแรก แต่แค่ผืนแรกก็เจอกับงานที่โหดขั้นสุดจนใช้เวลาทำเป็นเดือน หลังจากนั้นก็มีช่วงเวลาที่ขายไม่ได้เลยจนต้องปลุกไฟตัวเองขึ้นมาอีกครั้งและในที่สุดชื่อของ Supersoft.bkk ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีทีมที่ใหญ่ขึ้นพร้อมกับยอดขายแตะ 6 หลักต่อเดือน

จากมนุษย์เงินเดือนที่ลาออกเพราะอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ

     เชนได้เล่าย้อนกลับไปในเส้นทางของตัวเองก่อนจะทำธุรกิจว่าเขาเป็นคนเรียนไม่เก่ง เรียนจบก็มาเป็นพนักงานประจำในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบรถสวยๆ ที่ราคาสูงลิบ ทำให้เขาเริ่มตั้งเป้าในชีวิตว่าอยากประสบความสำเร็จในชีวิต เชนในอายุ 23 ปีจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อตามล่าหาแพสชัน

      “เชนไม่ใช่คนเรียนเก่ง พอเราเรียนจบมาเราได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ทำไปสักพักรู้สึกว่าเรามีเป้าหมาย เราชอบรถสวยๆ พอเราชอบรถสวยๆ แล้วมานึกดูถ้าเราทำอยู่ตรงนี้มันไปไม่ถึงเป้าหมายแน่ๆ ทำให้เชนอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ แล้วเราพบความจริงอย่างหนึ่งคือการประสบความสำเร็จมันอาจใช้เวลา 10 ปี บางคนอาจจะเร็วกว่านั้น แต่เรามองที่ 10 ปีเพราะเราเผื่อไปถึงความล้มเหลวด้วย มองเรื่องการรักษาความสำเร็จด้วย พอลองดูอายุ ตอนนั้นเราอายุ 23 ปี เลยคิดว่าต้องรีบแล้ว เลยตัดสินใจลาออก”

     หลังจากที่ลาออก เชนได้เปิดเพจรีวิว เริ่มมีรายได้หลักแสน แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ จนวันหนึ่งได้เจอคลิปที่ทำให้เชนปิ๊งไอเดียและต่อยอดกลายเป็น Supersoft.bkk ในปัจจุบัน

     “เราลาออก เราก็หาอย่างอื่นทำ เปิดเพจรีวิว มีรายได้ตรงนั้นมาแต่ทำไปสักพักก็ยังไม่ใช่ทางแล้วมีวันหนึ่ง เราไถโทรศัพท์แล้วเจอคลิปของฝรั่ง เป็นคลิปที่เขาทำพรม เราก็เห็นโอกาส มันน่าสนใจมากแล้วในไทยยังไม่ค่อยเห็นใครทำ เลยคิดว่านี่แหละเป็นโอกาสสำหรับเรานะ ถ้าเราได้ทำเป็นคนแรกๆ กระแสต้องมาแน่ๆ เลยตัดสินใจเริ่มทำและได้มาเจอกับอายในจังหวะนี้เลยเอาไอเดียมาเล่าให้อายฟัง อายเห็นด้วยเลยตัดสินใจหุ้นกัน แต่ช่วงแรกเป็นเชนที่ออกจากงานมาทำเต็มตัว อายยังทำงานประจำไปด้วย พอมีเวลาก็มาช่วยเชน จนปัจจุบันอายทำกับเชนเต็มตัวแล้ว”

    โดยอายได้เล่าเสริมว่าที่เธอตัดสินใจลาออกเพราะไม่อยากจับปลาสองมือและมองเห็นโอกาสของธุรกิจ Supersoft.bkk ว่าน่าจะเติบโตได้มากกว่านี้ ทำให้เธอตัดสินใจลาออกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนตอนนี้ในทีมมีทั้งหมด 5 คนเพื่อคอยดูแลในส่วนต่างๆ 

    “เราไม่สามารถจับปลาสองมือได้ ฝั่งงานประจำก็อยากให้อายทำงานเต็มที่และถ้าอายทำตรงนี้ ร้านก็จะเติบโตได้มากกว่านี้เหมือนกัน อายเพิ่งจะลาออกจากงานประจำช่วงเดือน 11 ปีที่แล้ว ตอนนั้นออเดอร์ก็พอสมควรและร้านก็โตในระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้เรามีทีม 5 คน ต้องบอกว่าโตขึ้นเยอะจากพรมผืนแรกที่ทำ เราทำกัน 2 คน ที่ใช้เวลาทำเป็นเดือนเพราะคนหนึ่งต้องยิงงานจนเสร็จถึงจะนำงานลงมาเก็บรายละเอียด ยิงก็ยังไม่ชำนาญ ใช้เวลา 5-7 วัน ช่วยกันเก็บงานอีกแต่ตอนนี้พอมีทีมมากขึ้น เราจะมีการแบ่งกันไป ทีมนี้ทำอะไร ทีมนี้ยิงพรม ทีมนี้เก็บพรม ทีมนี้ดูแลความเรียบร้อย แบ่งแยกการทำงานที่ชัดเจน ให้คนโฟกัสงานได้ดีขึ้นเพื่อให้แต่ละขั้นตอนออกมาดีที่สุด” อายเล่า

จากที่ขายไม่ได้สู่การทำคลิปเพื่อดึงลูกค้าแบบออร์แกนิก

     เชนเล่าย้อนไปถึงตอนที่ขายในช่วงแรก เขาเริ่มโปรโมตใน Instagram ด้วยการถ่ายคลิปขั้นตอนการทำจนกระทั่งเสร็จกลายเป็นพรมหนึ่งผืน แต่ช่วงนั้นก็ยังเงียบและไม่มีออเดอร์เข้ามา จนตัดสินใจว่าต้องจริงจังเรื่องการทำคอนเทนต์มากขึ้น พร้อมทั้งขยายแพลตฟอร์มไปยัง Facebook และ TikTok

     “ตอนเริ่มทำก็ถ่ายคลิปที่ทำลงโซเชียลร้าน แต่ก็เงียบๆ ไม่ค่อยมีคนดู หลังๆ เริ่มคิดว่าไม่ได้แล้ว เปิดร้านมาหลายเดือนยังขายไม่ได้เลย เลยตัดสินใจว่าต้องมาจริงจังเรื่องคอนเทนต์ เราเลยกลับไปดูคลิปที่เราเห็นครั้งแรกแล้วอยากทำธุรกิจนี้ เพราะรู้สึกว่าคลิปนั้นมันต้องมีอะไรแน่นอนถึงทำให้เราสนใจจนอยากทำธุรกิจ เลยไปดูว่าเขาใช้เทคนิคอะไร นำเสนอยังไง แล้วปรับใช้ ศึกษา ปรับไปปรับมา จนคนดูเพิ่มขึ้น แล้วเราก็เอาคลิปจากไอจีไปลงในแพลตฟอร์มอื่นๆ คราวนี้คนดูเยอะมาก เลยได้โอกาสจากพี่ศิลปินท่านหนึ่งที่เขาอยากได้พรม มาสั่งร้านเรา เลยจับเอาคอนเทนต์ตรงนี้มาทำ จนคลิปแมส คนดูเยอะมาก จากนั้นมาเลยรู้ว่าต้องทำคลิปประมาณนี้แหละ ตัวสินค้าเราเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เราเลยต้องนำเสนอคอนเทนต์รูปแบบเนื้อเรื่อง สตอรี่ว่ามันตอบโจทย์อะไรบางอย่างในชีวิตได้นะ”

     สำหรับจุดเด่นของพรมร้าน Supersoft.bkk เชนให้นิยามว่าพรมตามสั่ง สามารถคัสตอมได้ตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ที่สำคัญยังเพิ่มความพิเศษด้วยการ์ดพร้อมมีหมายเลขประจำพรมที่จะไล่ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ผืนแรกจนถึงผืนปัจจุบัน

     “ร้านเชนจะเป็นพรมตามสั่ง ลูกค้าคัสตอมแบบได้เลย อยากได้แบบไหน ทรงไหนเราทำได้หมด อีกอย่างคือการ์ดที่เราจะรันนัมเบอร์ ตั้งแต่พรมผืนแรก ไล่ไปเรื่อยๆ ความพิเศษคือจะเปลี่ยนลายทุกๆ 100 ผืนเพื่อให้แต่ละผืนมีเลขของตัวเองและจะไม่ซ้ำใคร”

     อายยังเล่าเสริมถึงจุดเด่นของพรมร้าน Supersoft.bkk ว่าเป็นเรื่องของการรักษามาตรฐานพรมทุกผืน แม้ว่าจะเป็นงานฝีมือแต่ก็จะเป็นงานฝีมือที่มีความละเอียดและเนี้ยบตรงตามมาตรฐานของแบรนด์ก่อนจะส่งมอบให้ลูกค้า

     “พรมร้านเราเป็นงานฝีมือ พองานฝีมือมวลรวมมันออกมาคืองานศิลปะ จะมีลายเส้น ดีเทลเหมือนว่าเราซื้องานศิลปะชิ้นหนึ่ง ถ้าเราชอบศิลปินคนไหน เราก็จะซื้อลายเส้นของศิลปินคนนั้น อันนี้เหมือนกัน แต่เราจะมีการตั้งมาตรฐานว่าทุกผืนต้องมีความละเอียด ตอนนี้ทีมเราไม่ได้มีแค่อายและเชน แต่มีทีมพนักงานหลายส่วน ผ่านการเทรนอย่างต่ำ 1 เดือนก่อนจะลงงานจริงของลูกค้า เราให้ความสำคัญว่างานทุกผืนก่อนส่งให้ลูกค้า ไม่ใช่แค่ดูดี เรียบร้อยแต่ต้องตรงตามมาตรฐานของอายกับเชนด้วย เราใส่ใจตรงนี้มากๆ ที่ลูกค้าจ่ายเงินกับเราแล้วได้ลายเส้นของงานพรมเหมือนได้ลายเส้นของศิลปินที่ชอบ ไม่ใช่ได้ไปแค่พรม” อายเล่า

     โดยพวกเขาได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจนี้ เริ่มจากเชนที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความออร์แกนิกในการทำให้ลูกค้ารู้จัก

     “เชนยึดหลักความเป็นออร์แกนิกของร้าน ตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบันเราไม่เคยซื้อยอดฟอลโล่ ไม่เคยทำโฆษณาหรือจ้างอินฟลูสักบาท ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเราทำงานคัสตอม มันค่อนข้างใช้ความน่าเชื่อถือและเราไม่สามารถเฟคความน่าเชื่อถือนั้นขึ้นมาได้ เราควรสร้างมันขึ้นมาเอง เราเลยอยากให้คนที่มาติดตามเป็นคนจริงๆ จะได้รู้ด้วยว่าช่วงนี้ธุรกิจเราเป็นยังไง ทำให้เราได้ข้อมูลที่ค่อนข้างถูกต้องและแม่นยำ”

     ส่วนอายปิดท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับคนที่จะเริ่มต้นธุรกิจคือคำว่า “หนีไป” โดยขยายความว่าให้หนีไปตั้งหลักก่อน ถ้ามั่นใจในแพสชันและสิ่งที่กำลังจะทำก็ลุยเลย

     “ที่เราสองคนอยากแนะนำคือ หนีไป หนีไปในที่นี่คือหนีไปตั้งหลักก่อน ถ้าตั้งหลักแล้วมั่นใจในแพสชันของตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่กำลังจะเริ่มทำ ก็ลงมือเลย ถ้าจะเริ่มแล้วยังไม่มั่นใจ ทำเพราะต้องทำหรือมีคนบอกให้ทำ แต่ไม่มั่นใจในแพสชัน ความรู้หรือเงินทุนให้หนีไปก่อนดีกว่า แต่ว่าถ้าพร้อมแล้วก็ให้ทำเลย เชนจะบอกอายเสมอว่าถ้าเราเริ่มตอนนี้แล้วมันสำเร็จ เราจะได้รู้เร็ว แต่ถ้ามันล้ม ก็จะได้รู้เร็วเหมือนกัน” เธอปิดท้าย

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup