​Sati ส่งยาทาเล็บนวัตกรรมใหม่เจาะตลาดเด็ก สวยแบบไร้สารพิษ!






 
     คนที่เคยทาเล็บหลายคนคงจะรู้ดีว่า กลิ่นของน้ำยาทาเล็บและน้ำยาล้างเล็บนั้นไม่อ่อนโยนต่อจมูกของเราเอาซะเลย ยิ่งถ้าผู้ใช้เป็นเด็กๆ กลิ่นฉุนของสารเคมีก็ดูจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น ทำเอาพ่อแม่ไม่สบายใจและห่วงใยในความปลอดภัยของเด็กๆเหล่านั้น และเพื่อความสวยแบบไร้สารเคมีของผู้ใช้ตัวน้อยๆ Sati แบรนด์เครื่องประดับแบบแฮนด์เมดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จึงคิดค้นสูตรน้ำยาทาเล็บที่เพียงจุ่มนิ้วลงในน้ำอุ่นก็สามารถล้างออกได้ รวมไปถึงการทำน้ำยาล้างเล็บจากสารสกัดของถั่วเหลืองที่ช่วยบำรุงผิวเล็บ ออกมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาด


     “ตอนนี้ความสวยงามและเครื่องสำอางไม่ได้ถูกตีกรอบอยู่ที่ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังขยายลงมาถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็กๆ ซึ่งนับวันจะรักสวยรักงามและกล้าแสดงออกมากขึ้น และการทาเล็บก็เป็นหนึ่งในนั้น” ฐิติมา ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม เจ้าของแบรนด์ Sati และคุณแม่ที่มีลูกสาว 2 คน แล้วอยากให้ลูกๆได้สวยอย่างปลอดภัย บอกถึงที่มาของการทำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเล็บของผู้ใช้ตัวน้อย





     “ถ้าเป็นเมื่อก่อนสำหรับเด็กคนไหนที่รักสวยรักงามแล้วอยากทาเล็บสวยๆบ้าง ก็ต้องเอาน้ำยาทาเล็บของผู้ใหญ่มาทา แต่ด้วยสารเคมีต่างๆ ความแสบจากอะซีโตนและกลิ่นที่ฉุนเลยมีอันตรายต่อทางเดินหายใจ ทางเราจึงร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรในการคิดค้นสูตรสีทาเล็บชนิดน้ำสำหรับเด็กขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีกลิ่นอ่อนโยน ไร้สารพิษและสารเคมีที่แม้เด็กจะอมเข้าปากก็ไม่เป็นอันตราย อีกทั้งสามารถล้างออกได้ง่ายๆ แค่เพียงจุ่มนิ้วลงในน้ำอุ่นสักพักแล้วขูดสีออก โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากสหรัฐอเมริกา (CPSIA STANDARD) แล้ว”


     สำหรับการเลือกใช้สีเพื่อเจาะตลาดเด็กนั้น ทาง Sati เองก็เน้นไปที่สีสันสวยงามและไม่ฉูดฉาดมากนักเมื่อเทียบกับของต่างประเทศที่มักนิยมการใช้สีโทนเดียวกันกับของผู้ใหญ่





     “นอกจากที่จะกลิ่นไม่ฉุนและไร้สารเคมีแล้ว สีสันที่ใช้ก็มีความสำคัญเพราะต้องเลือกให้เข้ากันและเหมาะสมกับความเป็นเด็ก ที่ถึงแม้จะเป็นสีที่สดใสแต่ก็ไม่ฉูดฉาด เพราะสีที่แรงเกินไปพ่อแม่ก็จะไม่ชอบ อีกทั้งยังต้องมีการอัปเดตติดตามว่าสีไหนกำลังมา เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของเรา”


     อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่อยากรอแช่น้ำแล้วขูดสีออก หรือเป็นคนที่แพ้ง่ายไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทางแบรนด์ก็มีการผลิตน้ำยาล้างเล็บ สูตรสารสกัดจากถั่วเหลือง ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อีกด้วย  





     “ถือเป็นการต่อยอดมาจากตัวน้ำยาทาเล็บ ที่ครั้งนี้ทางเรามองไปถึงการนำเอานวัตกรรมของการใช้สารสกัดจากถั่วเหลืองมาใช้ในการทำน้ำยาล้างเล็บ ที่สามารถช่วยลดปัญหาเล็บเหลืองและเปราะบาง ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื่นกับผิวเล็บ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบแล้ว มีความปลอดภัย ใช้ได้กับเล็บเด็กและผู้ใหญ่ และสามารถใช้ได้กับสีทาเล็บทุกประเภท โดยทำออกมาเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับการล้างเล็บ และสร้างความแตกต่างจากน้ำยาล้างเล็บทั่วๆไปที่ปกติเวลาเช็ดหน้าเล็บไปมันจะซีดขาว แต่สูตรของเราที่มีส่วนผสมของสารสกัดน้ำมันถั่วเหลืองนั้นจะเป็นตัวเคลือบ ไม่ทำให้หน้าเล็บซีดและเล็บไม่เหลือง”

  
     ทุกวันนี้เด็กหันมารักสวยรักงามมากขึ้น ส่วนพ่อแม่ยุคใหม่ก็มีแนวโน้มให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นความสุขทางใจของเด็กๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างกับผู้ปกครองบางส่วนที่ยังมีความคิดว่าเครื่องสำอางนั้นไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับวัยเด็ก





     “ตลาดเด็กส่วนใหญ่คนจะมองข้ามและยังแคบอยู่ แต่เราคิดว่ามันยังมีช่องว่างและโอกาสอีกมากที่จะพัฒนาและขยายให้เติบโตได้ เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นตลาดที่มีฐานลูกค้าอยู่ตลอด พูดง่ายๆคือมีเด็กโตขึ้นทุกวัน พอรุ่นนี้โต ก็จะมีรุ่นใหม่เข้ามา หมุนเวียนกันไป ที่สำคัญเครื่องสำอางสำหรับเด็กนั้นเป็นเทรนด์ที่กำลังมา ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะพ่อแม่เขาก็อยากให้ลูกได้ใช้สิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้ต้องจ่ายมากกว่า พวกเขาก็ยอม โดยเฉพาะปัจจุบันมีงานโรงเรียนหรือกิจกรรมที่ให้เด็กๆได้แสดงออกมากมาย โปรดักต์ความงามสำหรับเด็กแบบนี้ก็จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อีกทาง”  


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี



 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​