แบรนด์นอกถอยไป! ได้เวลา C-beauty เครื่องสำอางจีนทวงบัลลังก์คืน
Share:
Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์


Main Idea
- ตลาดเครื่องสำอางจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก หลายแบรนด์หรูจากนอกต่างเข้ามายึดหัวหาดครองตลาดอยู่นับหลายสิบปี
- แต่เร็วๆ นี้ Chinese-beauty หรือเรียกสั้นๆ ว่า “C-beauty” กลับตีตื้นรุกขึ้นมาทวงตลาดคืน ด้วยการหันมาเจาะกลุ่มตลาดบนยกระดับคุณภาพพรีเมียมเทียบเท่าแบรนด์หรูบวกกับกระแสรักชาติที่มาแรง จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
- จากผลการสำรวจพบว่าในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา 3 ใน 4 ของผู้บริโภคจีนเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับความงามที่เป็นแบรนด์ในประเทศ ร้อยละ 50 เป็นการซื้อครั้งแรก และเกือบร้อยละ 90 พิจารณาที่จะซื้อซ้ำ

ตลาดเครื่องสำอางจีนเป็นอีกตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก แต่ไหนแต่ไรมาเครื่องสำอางหรูแบรนด์พรีเมียม คุณภาพสูงจากต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีเข้ามาทำยอดขายได้สบายๆ แม้จะมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นของจีนเปิดตัวบ้างประปราย แต่บรรดาแบรนด์นอกก็ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งหรือรู้สึกว่าเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามช่วงหลังๆ มานี้ สภาวการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเครื่องสำอางแบรนด์จีนทั้งหลายรุกหนักในตลาด จนดูเหมือนกลายเป็นยุคแห่งผลิตภัณฑ์ความงามจากจีนกำลังครองตลาดอย่างไรอย่างนั้น

รายงานของบริษัท กันตาร์ กรุ๊ป ที่ให้คำปรึกษาด้านการตลาดที่จัดทำร่วมกับ บริษัท เท็นเซนต์ โฮลดิ้งส์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ระบุผลิตภัณฑ์ Chinese-beauty หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า C-beauty กลายเป็นปรากฏการณ์แจ้งเกิดในปี 2562 นี่เอง ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ การขยับจากการผลิตสินค้าราคาต่ำไปยังสินค้าเกรดพรีเมียมสำหรับตลาดบน เมื่อผู้บริโภคในจีนเองเริ่มหันมาอุดหนุนสินค้าผลิตในประเทศ ผลิตภัณฑ์ C-beauty ที่ประทับตราว่า เมดอินไชน่า จึงแทรกเข้าไปทับซ้อนตลาดเครื่องสำอางหรูจากแบรนด์นอกได้
ผลการสำรวจความเห็นพบว่า ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน 3 ใน 4 ของผู้บริโภคจีนซื้อสินค้าเกี่ยวกับความงามที่เป็นแบรนด์ในประเทศ โดยร้อยละ 50 เป็นการซื้อครั้งแรก จากการสำรวจยังพบอีกว่าเกินร้อยละ 40 ยินดีจะซื้ออีกในอนาคต และเกือบร้อยละ 90 พิจารณาที่จะซื้อซ้ำ รายงานระบุการเปลี่ยนค่านิยมของผู้บริโภคจีนจากแบรนด์นอกไปสู่ แบรนด์ในประเทศเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

และไม่ใช่เพราะราคาที่จูงใจอย่างเดียว แน่นอนว่าราคาอาจเป็นปัจจัยต้นๆ ที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคดจีนอุดหนุน C-beauty เพราะคุณภาพตรงตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม คุณภาพคุ้มราคา มีความน่าเชื่อถือ และใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นผลิต เมื่อผนวกกับการอัดแคมเปญการตลาด และการสร้างสตอรี่ต่างๆ แบรนด์ C-beauty จึงพากันแจ้งเกิดในเวลาไม่นาน
C-beauty กลายเป็นกระแสล่าสุดที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งหันกลับมานิยมสินค้าจีนแม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อสินค้าแบรนด์นอกก็ตาม ผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นประชากรหญิงอายุระหว่าง 15-25 ปี อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีความเจริญสูงสุด และมักตกเป็นทาสแคมเปญการตลาดที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำในวัยเด็ก ยกตัวอย่าง บริษัท ไวท์แรบบิท เจ้าของลูกอมรสตรากระต่ายขาวอันเป็นที่รู้จักดีก็เข้ามาจับตลาดความงามโดยผลิตน้ำหอมและสกินแคร์ออกจำหน่ายเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

อีกปัจจัยที่ทำให้ C-beauty จุดติด คือ การเป็นทางเลือกที่ย่อมเยากว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์ใหญ่ และ C-beauty หลาย ๆ แบรนด์ก็โฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์จากต่างประเทศ แต่ราคาถูกกว่าเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น นอกจากนั้น C-beauty ยังอาศัยบุคคลมีชื่อในสังคมและเน็ตไอดอลทำการตลาดผ่านโซเชียลของจีน เช่น เว่ยป๋อที่เปรียบเสมือนเฟซบุ๊กเวอร์ชั่นจีน ลิตเติ้ลเรดบุ๊ก และวีแชท เป็นต้น
C-beauty บางแบรนด์ชูจุดขายผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณ ยกตัวอย่างสกินแคร์แบรนด์ “Inoherb” ที่โด่งดังในเรื่องการนำ Rhodiola Rosea รากสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ มาใช้ในผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเชื่อว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสมุนไพรของจีนจะให้ผลดีกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างประเทศที่ใช้เคมี ซึ่งอาจทำลายผิวได้
แม้ว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์หรูจากต่างประเทศจะยังยืนหนึ่งในตลาดจีน โดย 3 แบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากสุดในปี 2561 คือ ดิออร์, เอสเตอร์ลอเดอร์ และลอรีอัล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาแบรนด์ C-beauty ของจีนก็กำลังมาแรงเช่นกัน นอกจากแบรนด์ที่มีอยู่ ก็ยังมีแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีลูกค้ากลุ่ม Gen Z ผู้รักสวยรักงามวัยระหว่าง 18-22 ปี ช่วยขับเคลื่อน
ทั้งนี้ คนรุ่นใหม่ของจีนไม่ได้คลั่งไคล้เครื่องสำอางแบรนด์เนมมากเหมือนเมื่อก่อน กอปรกับช่องทางการตลาดที่หลากหลายขึ้นทางโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์ C-beauty เข้าถึงลูกค้าโดยตรงง่ายขึ้น สำหรับแบรนด์ C-beauty ยอดนิยมที่รังสรรค์ผลิตภัณฑ์และสามารถติดป้าย Made in China จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในจีน ได้แก่ Hedone, Front Cover, Amour, Sevenfriend และMarie Dalgar Color Studio
อ้างอิง
https://jingdaily.com/c-beauty-lessons/
www.scmp.com/lifestyle/fashion-beauty/article/3009647/c-beauty-online-beauty-disrupters-use-influencers-reach
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
Topics:
Share:
Related Articles
ล้วงสูตรลับ “Eu Yan Sang” ร้านยาจีนเก่าแก่กว่าร้อยปีเมืองสิงคโปร์ ทำอย่างไรให้เติบใหญ่เป็นแบรนด์ข้ามชาติ
จากร้านขายขายยาแพทย์แผนจีนเล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 142 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน Eu Yan Sang ไม่เพียงอยู่ยั้งยืนยง หากยังพัฒนาธุรกิจให้เติบโตกลายเป็นแบร..
รับกระแสคนแห่เลี้ยงสัตว์ช่วงโควิด Ben & Jerry’s สบช่องเปิดตัวไอศกรีมสำหรับสุนัข
สร้างความฮือฮาให้กับวงการสัตว์เลี้ยงเมื่อแบรนด์ไอศกรีม Ben & Jerry’s เปิดตัว ”Doggie Desserts“ ไอศกรีมสำหรับสุนัข หลังจากการระบาดของโควิดทำให้จำ..
LOLI Beauty คิดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ให้สินค้าออร์แกนิก กำจัดบับเบิลพลาสติกในกระบวนการขนส่ง
LOLI Beauty แบรนด์เครื่องสำอางออร์แกนิกที่วางขาย Amazon พัฒนาถุงย่อยสลายได้หลายชั้นที่ “ดัก” อากาศเอาไว้ระหว่างชั้นผลิตด้วยข้าวโพดและแป้ง ที่สุดท้าย..